น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้เริ่มอภิปรายญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นคนแรก โดยเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันถือได้ว่าเป็นยุคข้าวยากหมากแพง มีคนฆ่าตัวตายไม่เว้นแต่ละวัน ล่าสุดเกิดความเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มนักเรียน นิสิต และนักศึกษา เนื่องจากไม่พอใจรัฐบาลซึ่งมีที่มาไม่ถูกต้องและมีการใช้อำนาจข่มเหงประชาชน ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการแก้ไขกฎกติกาใหม่ให้เกิดความเป็นธรรม รัฐบาลอาศัยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อหวังผลทางการเมือง และการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เป็นอุปสรรคต่อการบริหารประเทศ เพราะไม่ได้คำนึงถึงมีเป้าหมาย แต่เน้นที่กระบวนการ
"หาก พล.อ.ประยุทธ์ อยากจะช่วยเหลือคนไทยจริงๆ ตามที่พร่ำบอกก็ขอให้ประกาศลาออก แต่คิดว่าคงไม่เกิดขึ้น เพราะตำแหน่งมันหอมหวานเหย้ายวนจริงๆ" น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว
ในระหว่างการอภิปรายโจมตีการบริหารงานที่ผิดพลาดของนายกรัฐมนตรี น.อ.อนุดิษฐ์ ได้ขอให้นายกรัฐมนตรีหลับตาสัก 10 นาที ซึ่งจะเห็นแต่ความมืดมิด นั่นหมายถึงอนาคตของกลุ่มนักเรียนนักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวชุมนุม โดยมีการจับกุมตัวผู้ออกมาชุมนุม น.อ.อนุดิษฐ์ ได้ขออนุญาตแทน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ชูสามนิ้วมือซ้ายกลางที่ประชุมปฏิญาณตนให้คำมั่นสัญญากับประชาชนว่า ขอคืนอำนาจให้ประชาชน และใช้รัฐสภาแห่งนี้แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อหาทางออกของประเทศให้เป็นไปตามข้อเรียกร้องของประชาชน ขอเรียกร้องเจ้าหน้าที่รัฐยุติใช้ความรุนแรง ยุติการคุกคาม ออกหมายเรียก และต้องยุติรัฐธรรมนูญเผด็จการ โดยการตั้ง สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) และคืนอำนาจให้กับประชาชน
หากย้อนไปในอดีตเมื่อปี 46-49 จะเห็นว่าการจัดเก็บรายได้ในรัฐบาลที่มีนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี สูงกว่าประมาณการรายได้กว่าแสนล้านบาท แต่นับตั้งแต่มีการรัฐประหารเมื่อปี 57 แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี การจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าประมาณการอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ปี 57-63 การจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าประมาณการรวมแล้วกว่า 1 ล้านล้านบาท ขณะเดียวกันก็มีการก่อหนี้เพิ่มขึ้นด้วยการกู้เงินอีกหลายล้านล้านบาท
"รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กำลังลากจูงแผ่นดินอันมั่งคั่งกำลังจมลงสู่กองหนี้ก้อนมหึมา คนส่วนใหญ่ของประเทศกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจ เกิดความเดือดร้อนวุ่นวายไปทุกหย่อมหญ้า หลายปัญหามันเกินเยียวยา" น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว
เลขาธิการพรรค พท.กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจของประเทศกำลังมีปัญหา อย่างเรื่องความได้เปรียบในการแข่งขันที่เป็นแรงจูงใจดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศกำลังหมดไปเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน และยังมีปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชน เช่น กรณีสั่งปิดเหมืองทองคำที่ทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ
สถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ ตนเองมีข้อเสนอต่อรัฐบาล 4 ประการ คือ 1.ให้ปรับลดบุคลากรภาครัฐและรายจ่ายประจำเพื่อนำงบประมาณไปลงทุนที่มีผลิตภาพ 2.กำหนดเป้าหมายการพัฒนาประเทศเพื่อสร้างฐานการผลิตใหม่ที่ทั่วโลกต้องการ 3.เปลี่ยนวิธีการจัดทำงบประมาณโดยยึดที่เป้าหมายที่ชัดเจนไม่ใช่กระบวนการ เช่น การเข้าร่วม CPTPP หรือไม่ และ 4.รัฐบาลต้องเคารพต่อสิทธิ เสรีภาพ และอำนาจของประชาชน เมื่อการเมืองดีจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจเพราะทำให้เกิดความเชื่อมั่น
"ปัญหามากมายที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองเรา ผมเชื่อว่าเกิดขึ้นจากการสืบทอดอำนาจของหัวหน้าคณะปฏิวัติในปี 57 ซึ่งเข้ามาเขียนกติกาให้กับตัวเอง รักษาเก้าอี้มาจนถึงวันนี้" น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว