"พีระพันธุ์" เปิดรายงานผลศึกษากมธ. ชงตั้งส.ส.ร.ยกร่าง รธน.ฉบับใหม่

ข่าวการเมือง Thursday September 10, 2020 15:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 สภาผู้แทนราษฎร ได้นำเสนอรายงานของ กมธ.แก้ไขรัฐธรรมนูญต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร หลัง กมธ.หาข้อมูลประกอบการแก้ไขเพิ่มเติม โดยรวบรวมความเห็นอย่างรอบด้านเสร็จสิ้น โดยไม่มีความคิดใดถูกหรือผิด เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูล โดยยึดผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นหลัก

กมธ. เสนอให้การแก้ไขมาตรา 256 เพื่อให้สามารถแก้ไขส่วนอื่นๆ ที่เป็นปัญหาได้ง่ายขึ้น และเมื่อพิจารณารายมาตราแล้ว พบว่า ทั้งเรื่องสิทธิเสรีภาพประชาชน, กระบวนการยุติธรรม ที่ควรมีระบบถ่วงดุล, หน้าที่ของรัฐ ที่ประชาชนควรมีอำนาจกำกับการใช้อำนาจรัฐได้ ซึ่งเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับรัฐธรรมนูญในอดีตแล้วมีเนื้อหาสาระดีกว่า จึงควรนำรายละเอียดรัฐธรรมนูญในอดีตมาปรับใช้เพิ่มเติมในปัจจุบัน โดย กมธ.เสนอให้มีการยกร่างขึ้นมาใหม่ โดยให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากประชาชน และจัดให้มีการออกเสียงประชามติ ส่วนสถานะองค์กรต่างๆ ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

นายพีระพันธุ์ ยังกล่าวถึงแผนยุทธศาสตร์ชาติตามรัฐธรรมนูญว่า ควรมีการแก้ไขให้ทุกภาคส่วนเขามามีส่วนร่วม เพื่อมุมมองหลากหลาย และปรับปรุงกรอบการทำยุทธศาสตร์ชาติให้เร็วขึ้น และอาจต้องปรับแผนทุกๆ 1-2 ปี

ส่วนบทบัญญัติการขัดกันแห่งผลประโยชน์ นายพีระพันธุ์ ชี้แจงว่า ควรมีการบัญญัติห้ามตุลาการ และสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดอบรมหลักสูตรใดๆ เพื่อไม่ให้มีการสร้างสายสัมพันธ์กับตุลาการศาล และรัฐสภาสามารถตรวจสอบถ่วงดุลการใช้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญได้บางกรณี รวมถึงมีกระบวนการตรวจสอบการใช้อำนาจขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญอย่างเหมาะสม ผ่านกระบวนการรัฐสภา เพราะยึดโยงกับประชาชน

นายพีระพันธุ์ ยังเปิดเผยผลสรุปการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบการเมืองว่า ในระบบการเลือกตั้ง ควรกลับไปใช้ระบบการเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ แบ่งเป็น ระบบแบ่งเขต 400 คน และแบบบัญชีรายชื่อ 100 คน พร้อมยกเลิกระบบการคำนวณ ส.ส.ปัจจุบัน รวมถึงยกเลิกขั้นตอนการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ขณะที่บทบัญญัติว่าด้วยสมาชิกวุฒิสภาตามบทเฉพาะกาล กมธ.ยังมีความเห็น 2 ชุด ได้แก่ การยกเลิกวุฒิสภาชุดปัจจุบัน และกลับไปใช้วิธีการคัดเลือกแบบทางอ้อม และการวุฒิสภาอยู่ปฏิบัติหน้าที่จนครบวาระ แต่ปรับลดอำนาจการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี และการติดตามการปฏิรูปประเทศออก รวมถึงยกเลิกนำหมวดว่าด้วยการปฏิรูปประเทศในรัฐธรรมนูญออก และนำไปบัญญัติเป็นกฎหมายรองแทน เพราะกระบวนการปัจจุบันล่าช้า และไม่มีความคืบหน้าใดๆ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ