พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยว่า จากการนัดชุมนุมเคลื่อนไหวของกลุ่มราษฎร ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในช่วงเย็นวันนี้ ทาง บช.น.ได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าตำรวจไว้ทั้งหมด 59 กองร้อย (8,850 นาย) ซึ่งจะแบ่งพื้นที่การรับผิดชอบออกเป็น 3 พื้นที่ ประกอบด้วย ส่วนแรก เป็นพื้นที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและบริเวณโดยรอบ ถนนราชดำเนินกลาง แยกผ่านฟ้า ส่วนที่ 2 สนามหลวง ศาลฎีกาและถนนพื้นที่ใกล้เคียง และส่วนที่ 3 ตั้งแต่สะพานผ่านฟ้า แยก จปร. แยกมัฆวานรังสรรค์ และบริเวณทำเนียบรัฐบาล
พร้อมกับฝากเตือนไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมว่า ห้ามไม่ให้มีการจัดการชุมนุมในระยะ 150 เมตรจากพระบรมมหาราชวัง, พระราชวัง, วัง, ที่ประทับหรือที่พำนัก ซึ่งหากผู้ชุมนุมฝ่าฝืนที่จะผ่านเข้าไป เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะมีการปฏิบัติตามขั้นตอน
ส่วนที่กลุ่มราษฎรได้เชิญชวนให้ประชาชนเขียนจดหมายถึงสถาบันนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า สามารถดำเนินการได้หากข้อความในจดหมายไม่มีผลกระทบหรือไม่ผิดกฎหมาย แต่ถ้ามีข้อความที่ไม่เหมาะสม หมิ่นประมาท หรืออาฆาตมาดร้าย ก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนที่มีข่าวว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะดาวกระจายไปปิดสถานที่สำคัญ 22 จุดนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้มีการจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็วไว้พร้อมรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นแล้ว
นอกจากนี้ ที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะเกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างผู้ชุมนุม 2 กลุ่ม เนื่องจากวั้นนี้กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ได้นัดชุมนุมบริเวณใกล้เคียงกับอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ที่ฝั่ง ถ.ดินสอด้วยนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ทางตำรวจได้มีความเป็นห่วงในเรื่องนี้ จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยไว้บริเวณโดยรอบพื้นที่ดังกล่าวแล้ว เพื่อป้องกันปัญหาการเผชิญหน้ากันของผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎรกับกลุ่ม ศปปส.
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กล่าวว่า สำหรับการชุมนุมในวันนี้ได้รับรายงานว่ามี ศปปส. เพียงกลุ่มเดียวที่แจ้งขออนุญาตการชุมนุมไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเวลา 14.00 น. บริเวณหน้าร้านเมธาวลัยศรแดง ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ที่ต้องระบุเวลา และสถานที่อย่างชัดเจน อย่างไรก็ดี แม้จะมีการแจ้งขออนุญาตการชุมนุมไว้กับเจ้าหน้าที่แล้ว แต่หากมีการกระทำใดๆ ที่ผิดกฎหมาย ก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกันโดยไม่มีการละเว้น