สศค.เผยศก.ภูมิภาคพ.ย.ดีขึ้น นำโดยภาคอีสาน-กลาง-กทม.จากอุปสงค์-ลงทุนฟื้น

ข่าวการเมือง Monday December 28, 2020 16:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจภูมิภาคในเดือนพ.ย.63 ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า อาทิ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กทม. และปริมณฑล จากอุปสงค์ในประเทศทั้งการบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนภาคเอกชนที่ทยอยฟื้นตัว รวมถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมที่ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

-เศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า ทั้งจากการบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาคเอกชน รวมถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมที่ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชนปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ขยายตัว 21.7% ต่อปี ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 19.0% ต่อปี

สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวอยู่ที่ 2.0% ต่อปี จากเดือนก่อนหน้าชะลอตัวที่ -1.2% ต่อปี นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาในด้านความเชื่อมั่น พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ระดับ 55.3 และ 76.5 ตามลำดับ จากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 54.1 และ 75.9 ตามลำดับ สำหรับในด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ พบว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ -0.9% ต่อปี จากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ -0.8% ต่อปี

-เศรษฐกิจภาคกลาง ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าทั้งจากการลงทุนภาคเอกชน การบริโภคภาคเอกชนรวมถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมที่ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชนยังขยายตัวได้ดี สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ขยายตัว 2.7% ต่อปี จากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 11.0% ต่อปี

สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน พบว่าจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ ชะลอตัวลดลงมาอยู่ที่ -11.0% ต่อปี จากเดือนก่อนหน้าที่ชะลอตัว -31.0% ต่อปี นอกจากนี้ เงินทุนของโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการขยายตัวสูงที่ 2,400.4% ต่อปี ด้วยเงินทุนจำนวน 12,334 ล้านบาท จากโรงงานทำผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์กลาส ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นสำคัญ

นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาในด้านความเชื่อมั่น พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 51.0 และ 87.1 ตามลำดับ จากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 49.7 และ 85.7 ตามลำดับ สำหรับในด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ พบว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ -0.7% ต่อปี จากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ -0.9% ต่อปี

-เศรษฐกิจ กทม. และปริมณฑล ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าทั้งจากการลงทุนภาคเอกชน การบริโภคภาคเอกชน รวมถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมที่ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่กลับมาขยายตัวอยู่ที่ 6.6% ต่อปี จากเดือนก่อนหน้าที่ชะลอตัว -7.1% ต่อปี สอดคล้องกับจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ที่ขยายตัวต่อเนื่องมาอยู่ 72.5% ต่อปี จากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 339.6 ต่อปี

สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน พบว่าภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ชะลอตัวลดลงมาอยู่ที่ -5.8% -3.5% และ -7.1% ต่อปี ตามลำดับ จากเดือนก่อนหน้าที่ชะลอตัวร้อยละ -12.0% -24.5% และ -13.7% ตามลำดับ สอดคล้องกับรายได้เกษตรกรที่ขยายตัว 15.1% ต่อปี ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 22.1% ต่อปี

นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาในด้านความเชื่อมั่น พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 51.8 และ 87.1 ตามลำดับ จากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 50.0 และ 85.7 ตามลำดับ สำหรับด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ พบว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ -0.3% ต่อปี จากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ -0.4% ต่อปี

-เศรษฐกิจภาคตะวันออก ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะด้านการลงทุนภาคเอกชนรวมถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมที่ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ ขยายตัว 8.0% และ 11.5% ต่อปี จากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ -11.1% และ 4.7% ต่อปี ตามลำดับ นอกจากนี้ เงินทุนของโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการขยายตัว 12.7% ต่อปี ด้วยจำนวน 3,976 ล้านบาท จากโรงงานผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสมในจังหวัดชลบุรี เป็นสำคัญ

สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งสะท้อนจากรายได้เกษตรกรขยายตัวต่อเนื่องที่ 42.1% ต่อปี สอดคล้องกับจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ชะลอตัวลดลงมาอยู่ที่ -12.5% และ -19.6% ต่อปี จากเดือนก่อนหน้าที่ชะลอตัวร้อยละ -25.0% และ -21.4% ต่อปี ตามลำดับ

นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาในด้านความเชื่อมั่น พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 55.2 และ 105.2 ตามลำดับ จากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 53.7 และ 103.1 ตามลำดับ สำหรับด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ พบว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ -0.5% ต่อปี จากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ -0.7% ต่อปี

-เศรษฐกิจภาคใต้ ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะด้านการลงทุนภาคเอกชนรวมถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมที่ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้นจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ที่กลับมาขยายตัว 1.0% ต่อปี นอกจากนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวได้ดีอยู่ที่ 362.2% ต่อปี ด้วยเงินทุนจำนวน 6,031 ล้านบาท จากการผลิตไม้อัดจากไม้ยางพาราในจังหวัดตรัง เป็นสำคัญ

สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น สะท้อนจากการขยายตัวของรายได้เกษตรกรที่ขยายตัวต่อเนื่องมาอยู่ที่ 49.3% ต่อปี จากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 48.1% ต่อปี สอดคล้องกับจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ที่ชะลอตัวลดลงมาอยู่ที่ -7.5% ต่อปี จากเดือนก่อนหน้าที่ชะลอตัวอยู่ที่ -15.7% ต่อปี

นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาในด้านความเชื่อมั่น พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 49.4 และ 85.8 ตามลำดับ จากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 47.2 และ 84.0 ตามลำดับ สำหรับด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ พบว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ -0.8% ต่อปี จากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ -0.9% ต่อปี

-เศรษฐกิจภาคตะวันตก ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากรายได้เกษตรกรที่ขยายตัวต่อเนื่องที่ 8.9% ต่อปี สำหรับ เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจาก จำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ กลับมาขยายตัวที่ 11.8% ต่อปี จากเดือนก่อนหน้าชะลอตัวที่ -7.7% ต่อปี

นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาในด้านความเชื่อมั่น พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 51.0 และ 87.1 ตามลำดับ จากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 49.7 และ 85.7 ตามลำดับ สำหรับด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ พบว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ -0.7% ต่อปี

-เศรษฐกิจภาคเหนือ ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งสะท้อนจากจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ชะลอตัวลดลงมาอยู่ที่ -11.9% จากเดือนก่อนหน้าที่ชะลอตัว -21.8% ต่อปี อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 53.7 จาก 52.5 ในเดือนก่อน

สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน พบว่า เงินทุนของโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการ ขยายตัวได้ 1,578.1% ต่อปี ด้วยเงินทุนจำนวน 3,380 ล้านบาท จากโรงงานผลิตก๊าซชีวภาพ ในจังหวัดกำแพงเพชร เป็นสำคัญ สำหรับในด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ พบว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ -0.7% ต่อปี จากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ -0.9% ต่อปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ