กองทัพสหรัฐขออนุมัติงบเพิ่ม คาดภารกิจสงครามอิรัก-อัฟกานิสถานยืดเยื้อ

          ประธานคณะเสนาธิการร่วมทางทหารของสหรัฐกล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐจำเป็นต้องให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายด้านกองกำลังให้ได้อย่างน้อยที่สุดเท่ากับระดับปัจจุบัน เพื่อรับมือกับการทำสงครามต่อต้านกลุ่มหัวรุนแรงในอิรักและอัฟกานิสถานที่ใช้เวลานานนับศตวรรษ 
           พล.อ.อ.ไมเคิล มูเลนกล่าวว่า การปฏิบัติภารกิจของกองกำลังสหรัฐมีแนวโน้มว่าจะยืดเยื้อกว่ากำหนด อีกทั้งยังต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับความท้าทายจากอิรักและอัฟกานิสถานเพิ่มมากขึ้น
          "เรามองว่ากองกำลังสหรัฐมีค่าใช้จ่ายที่น้อยเกินไปเมื่อเทียบกับกองกำลังอื่นๆจากชาติอื่นๆ เมื่อพิจารณาถึงงบประมาณพื้นฐานที่เรามีอยู่ในขณะนี้" มูเลนกล่าวกับผู้เชี่ยวชาญด้านกองกำลังทหารและหน่วยงานด้านการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ
          "เราจำเป็นต้องมีงบประมาณในการป้องกันตนเอง และงบประมาณด้านกองกำลังปราบปรามที่กระจายตัวอยู่ทั่วทุกมุมโลก เพื่อให้การปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี"
          ทั้งนี้ มูเลนซึ่งก้าวขึ้นมาเป็นประธานคณะเสนาธิการร่วมทางทหารเมื่อวันที่ 1 ต.ค. นั้นได้แสดงข้อคิดเห็นดังกล่าวท่ามกลางการส่งสัญญาณที่ว่า สภาคองเกรสของสหรัฐไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการเพิ่มงบประมาณการใช้จ่ายด้านการทำสงครามในอิรัก หลังจากที่ฝ่ายบริหารได้ยื่นเรื่องของบประมาณด้านกองกำลังประจำปีงบประมาณ 2551 เพิ่มขึ้นเป็นเงิน 4.817 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และของบด้านการทำสงครามกับอิรักและอัฟกานิสถานเพิ่มอีกกว่า  2.00 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
          นักวิเคราะห์หลายรายกล่าวว่า ค่าใช้จ่ายด้านกองกำลังขณะนี้พุ่งขึ้นสูงสุดกว่าที่เคยมีมานับตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งหากสภาคองเกรสอนุมัติงบประมาณด้านการทำสงครามจะทำให้ค่าใช้จ่ายด้านกองกำลังพุ่งทะยานขึ้น 34% นับตั้งแต่เกิดเหตุวินาศกรรมสหรัฐเมื่อวันที่ 11 ก.ย.2544