มวลชนกลุ่มทะลุฟ้าเดินทางมารวมตัวบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อเตรียมเคลื่อนขบวนไปยังบ้านพักของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่ตั้งอยู่ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ถ.วิภาวดีรังสิต โดยวันนี้จะใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน เลี้ยวขวาซอยพหลโยธิน 2 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนวิภาวดีรังสิต
แต่เมื่อเวลา 16.25 น. กลุ่มทะลุฟ้าได้ประกาศเปลี่ยนเส้นทางมุ่งหน้าไปยังทำเนียบรัฐบาล ถ.พิษณุโลก ซึ่งขณะนี้กลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งประกอบด้วยผู้ที่เดินเท้า และขบวนรถจักรยานยนต์ที่บีบแตรไปตลอด ได้เปลี่ยนมาใช้เส้นทาง ถ.พญาไท และจะเลี้ยวขวาที่แยกราชเทวี เข้าสู่ ถ.เพชรบุรี และตรงข้ามแยกยมราช มุ่งหน้าไปยัง ถ.พิษณุโลก ซึ่งต้องจับตาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการใช้กำลังสกัดกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อไม่ให้ไปถึงยังทำเนียบรัฐบาลได้หรือไม่
เวลา 17.15 น. กลุ่มทะลุฟ้า ซึ่งหัวขบวนของกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นรถหกล้อติดเครื่องขยายเสียง ได้เคลื่อนขบวนมาถึงบริเวณหน้าเชิงสะพานชมัยมรุเชฐแล้ว แต่ยังไม่สามารถผ่านจุดนี้ไปได้ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ยืนเรียงแถวหน้ากระดานอยู่ที่เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ โดยแกนนำมวลชนกำลังพยายามขอเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อจะขอผ่านเข้าไป
ส่วนการจราจรบนถนนพิษณุโลกขณะนี้ทำให้จำเป็นต้องปิดไปโดยปริยาย เนื่องจากจำนวนผู้ชุมนุมใช้พื้นที่เต็มช่องจราจร รถยนต์ทั่วไปไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ตามปกติ ทั้งฝั่งพณิชยการพระนคร และฝั่ง รร.ราชวินิตมัธยม
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 17.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เริ่มใช้รถน้ำฉีดเข้ามายังฝั่งของกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการตอบโต้ด้วยการปาวัตถุคล้ายประทัดเข้าไป จนสุดท้ายตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตากลับมา ทำให้ฝ่ายผู้ชุมนุมต่างถอยร่นออกไป และแกนนำทะลุฟ้าได้ประกาศยุติการชุมนุมในเวลาประมาณ 18.00 น.
อย่างไรก็ดี แม้แกนนำจะประกาศยุติชุมนุมแล้ว แต่มวลชนยังคงไม่เดินทางกลับ ได้หันหลังไปทางแยกนางเลิ้ง ถ.นครสวรรค์ และผู้ชุมนุมบางคนได้ทุบทำลายตู้จราจรบริเวณแยกนางเลิ้ง ซึ่งมีทั้งการใช้ด้ามธง และการปาของแข็งเข้าไปจนทำกระจกของป้อมตำรวจเสียหาย
ล่าสุด เวลา 18.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ได้เริ่มเข้ามาตั้งแนวบน ถ.นครสวรรค์แล้ว