เพื่อไทย จี้รัฐบาลแจงจัดซื้อซิโนแวคราคาสูงเกินจริง ส่วนต่างกว่า 2 พันลบ.

ข่าวการเมือง Tuesday August 31, 2021 12:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่เชื่อว่าสถิติผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ และผู้เสียชีวิตที่มีแนวโน้มลดลงในช่วงใกล้วันอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเป็นข้อเท็จจริง แต่เกิดจากการปรับแต่งตัวเลข ความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาโควิด-19 มาจากความผิดพลาดในการบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รวมทั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ทั้งการประเมินสถานการณ์โรคโควิด-19 ว่าเป็นเพียงโรคหวัดธรรมดา ไม่มีการเตรียมแผนจัดหาวัคซีนที่มีคุณภาพอย่างเพียงพอกับจำนวนประชากรจนเกิดปัญหาขาดแคลน ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ โดยมีกิจการต้องปิดตัวลงเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาว่างงาน

ความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ที่สามารถมองเห็น ได้แก่ การปล่อยปละละเลยให้เกิดคลัสเตอร์สนามมวย คลัสเตอร์บ่อนภาคตะวันออก คลัสเตอร์แรงงานในจังหวัดสมุทรสาคร และคลัสเตอร์สถานบันเทิงย่านทองหล่อ ซึ่งเป็นต้นตอสำคัญของการแพร่ระบาดไปทั่วประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ และนายอนุทิน มีผลประโยชน์ทับซ้อน ปิดบังอำพราง เอื้อประโยชน์พวกพ้องกรณีจัดหาวัคซีนซิโนแวคเพิ่มเติมอีกเกือบ 10 ล้านโดส ทั้งที่มีหลายหน่วยงานคัดค้านว่ามีคุณภาพต่ำ โดยใช้วิธีผูกขาดตัดตอน และมีจำนวนสูงกว่าวัคซีนหลักที่กำหนดไว้ในแผน ซึ่งเป็นวัคซีนที่องค์การอนามัยโลกยังไม่ให้การรับรอง อีกทั้งทำให้ประชาชนเข้าใจว่าเป็นการจัดซื้อแบบจีทูจีทั้งที่ความจริงเป็นการจัดซื้อในเชิงพาณิชย์ และมีราคาสูงกว่าประเทศอื่น โดยไทยซื้อในราคาโดสละ 566 บาท อินโดนีเซีย 460 บาท และบราซิล 337 บาท

"การจัดซื้อวัคซีนซิโนแวคมีความไม่ชอบมาพากล เพราะใช้เวลาดำเนินการแค่ 24 วัน แต่ทำไมการอนุญาตให้นำเข้าวัคซีนชนิดอื่นถึงล่าช้า" นายประเสริฐ กล่าว

การที่รัฐบาลตัดสินใจไม่เข้าร่วมโครงการ COVAX เป็นความผิดพลาด ทำให้ขาดโอกาสในการได้รับวัคซีนที่มีคุณภาพโดยอ้างเหตุผลต่างๆ นานา แต่น่าจะมาจากเรื่องผลประโยชน์ และยังกีดกันไม่ให้เอกชนนำเข้าวัคซีนทางเลือก ทำให้ประเทศต้องอยู่ในภาวะขาดแคลนวัคซีน และยังมีความผิดพลาดในการกระจายวัคซีนที่ไม่เป็นระบบ ขาดความเป็นเอกภาพ การจัดสรรวัคซีนที่ไม่เหมาะสม โดยพื้นที่แพร่ระบาดไม่มีวัคซีนใช้งาน

นายประเสริฐ กล่าวว่า การบริหารงานของรัฐบาลที่ผ่านมาขาดความชัดเจน เช่น การประกาศล็อกดาวน์โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ทำให้ผู้ประกอบการขาดทุน แรงงานกลับบ้านนำเชื้อไปแพร่ระบาดเพิ่ม, ความลังเลในการจัดหาชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) , การขาดแคลนเตียงจนต้องนอนรอ ทำให้เสียชีวิตที่บ้านและข้างถนน ผลที่ตามมาคือนานาชาติขาดความเชื่อมั่นในความปลอดภัยโดยประกาศเตือนประชาชนของตนเองไม่ให้เดินทางมาประเทศไทย ขณะที่มีธุรกิจหลายอย่างต้องปิดกิจการลงโดยไม่ได้กระทำความผิดอะไร

ในการจัดซื้อวัคซีนซีโนแวคส่อทุจริต โดยทุกครั้งที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะอนุมัติให้จัดซื้อในราคาโดสละ 17 ดอลลาร์ แต่ราคาที่บริษัทคิดนั้นมีการปรับลดลงเป็นลำดับจากโดสละ 17 ดอลลาร์ เหลือแค่โดสละ 9 ดอลลาร์ ทำให้มีส่วนต่างเกิดขึ้น 2,098 ล้านบาท และเป็นที่สังเกตว่าทำไม ครม.ไม่อนุมัติซื้อวัคซีนไปตามความจริง โดย ครม.ยังคงอนุมัติให้จัดซื้อในราคาโดสละ 17 ดอลลาร์เท่าเดิม และตนไม่แปลกใจที่มีความพยายามจะออกกฎหมายเพื่อนิรโทษกรรมให้กับตัวเอง

เช่นเดียวกับการจัดซื้อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเป็นวัคซีนหลักที่มีความผิดพลาด ขาดความรอบคอบและระมัดระวัง โดยแอบอ้างสถาบันฯ และไม่มีการบริหารความเสี่ยง เพราะการจัดทำสัญญามีความเสียเปรียบบริษัทเอกชน เช่น ไม่รับประกันความเสียหายหากการวิจัยและพัฒนาของบริษัทฯ ไม่ประสบความสำเร็จ, สัดส่วนการส่งมอบให้น้อยกว่าการส่งออก

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการอภิปรายมีการประท้วงทำให้ประธานสภาฯ เตือนถึงเนื้อหาที่พาดพิงบุคคลภายนอก หรือคุณภาพของวัคซีนที่อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และกระทบต่อความเชื่อถือของประชาชนจำนวนมากที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคไปแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ