ศาลอาญายกคดี"ทักษิณ-พจมาน"ฟ้อง คตส.แนะส่งศาลฏีกาแผนกคดีนักการเมืองแทน

          ศาลอาญามีคำพิพากษายกฟ้องในคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) และกรรมการ คตส.รวม 11 คน ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสอบสวนคดีอาญากระทำการใดในตำแหน่งอันเป็นมิชอบ
          โจทก์ยื่นฟ้องเมื่อ 17 ส.ค.50 โดยบรรยายฟ้องว่าเมื่อ 14 พ.ค.-21 มิ.ย.50 กรรมการ คตส. ซึ่งมีอำนาจหน้าที่การตรวจสอบการทุจริตใช้อำนาจกลั่นแกล้งให้โจทก์ทั้งสองต้องรับโทษทางอาญาในการสอบสวนคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก โดย คตส.ไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามขั้นตอนการสอบสวนที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มาตรา 74 
          ทั้งนี้ ตามกฎหมายฉบับดังกล่าวระบุว่าเมื่อจะมีการฟ้องคดีอาญาให้มีหนังสือแจ้งผู้ถูกกล่าวหาไปรายงานตัวต่อ คตส. หากผู้ถูกกล่าวหาไม่ไปรายงานตัวตามกำหนด ให้แจ้งพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจจัดการให้ได้ตัวผู้ถูกกล่าวหา เพื่อส่งอัยการสูงสุดนำตัวไปยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยวิธีการดังกล่าวเป็นขั้นตอนที่กำหนดไว้ในชั้นการกล่าวหา ซึ่งหาก คตส.ปฏิบัติตามขั้นตอนตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ โจทก์ทั้งสองจะยังไม่ถูกออกหมายจับในฐานะจำเลยของคดีนี้
          แต่เมื่อศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า ศาลอาญาไม่มีอำนาจในการในการพิจารณาและพิพากษาในคดีนี้ เนื่องจากตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(คปค.) ฉบับที่ 30 ระบุว่า การที่จะฟ้องในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และเป็นเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสอบสวนคดีอาญากระทำการใดในตำแหน่งอันเป็นมิชอบ กลั่นแกล้งให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดต้องรับโทษตามมาตรา 200 จะฟ้อง คตส.และอนุกรรมการ คตส.ไม่ได้ จำเลยต้องนำคดีไปฟ้องต่อศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง