รายงานข่าวจากรัฐสภา เปิดเผยว่า ในการประชุมวุฒิสภาที่มี พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยก่อนที่จะเข้าวาระพิจารณาเรื่องด่วน ร่างข้อบังคับวุฒิสภา (ฉบับที่?) พ.ศ. ? ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ ที่มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว.เป็นประธาน กมธ.พิจารณาแล้วเสร็จ ขณะที่มี ส.ว.นั่งภายห้องประชุมเพียงหลักสิบคนเท่านั้น
นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. จึงได้เสนอให้นับองค์ประชุม เนื่องจากเห็นว่าเป็นวาระสำคัญ เพื่อให้ความสำคัญกับการพิจารณาข้อบังคับจึงควรให้ ส.ว.แสดงตนเป็นองค์ประชุม
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ใช้เวลารอองค์ประชุมเกือบ 10 นาที ก่อนจะขานมติผู้แสดงตนว่ามีผู้กดบัตรแสดงตน 146 คน นั่งอยู่ด้านบนห้องประชุม 13 คน รวมเป็นยอด 159 คน หลังจากขานมติแล้วพบว่ามี ส.ว.ขอแสดงตนเพิ่มเติม รวมทำให้มียอดแสดงตนรวม 162 คน จากยอด ส.ว.ปฏิบัติหน้าที่ได้ 248 คน โดยในการลงชื่อเข้าร่วมประชุมพบว่ามียอดรวมทั้งสิ้น 235 คน
พล.อ.สิงห์ศึก กล่าวว่า ภายใต้มาตรการเว้นระยะห่างเพื่อป้องกันโควิด-19 ส.ว.จึงไม่นั่งในห้องประชุม เพราะรับฟังในห้องทำงานส่วนตัวได้ อีกทั้งช่วงเวลาดังกล่าวเป็นเวลาเที่ยงวันจึงมี ส.ว.ไปรับประทานอาหารกล่องในห้องทำงาน
สำหรับวาระพิจารณาร่างข้อบังคับวุฒิสภา (ฉบับที่...) พ.ศ.... ซึ่ง กมธ.ได้มีการแก้ไขมีสาระสำคัญ คือ ให้การประชุมวุฒิสภา สามารถทำผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ เมื่อมีเหตุสุดวิสัย หรือมีเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถจัดประชุมวุฒิสภาได้ ทั้งนี้สมาชิกที่เข้าประชุมจะประชุมผ่านออนไลน์บางสื่อหรือทั้งหมดก็ได้ ทั้งนี้ได้เปิดช่องให้การประชุมร่างกฎหมายยหรือร่างข้อบังคับ หรือพ.ร.ก., การพิจารณาให้บุคคลดำรงตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ, เห็นชอบให้บุคคลพ้นตำแหน่ง, พิจารณารัฐธรรมนูญ กฎหมาย ข้อบังคับ ที่วุฒิสภามีมติให้กระทำเป็นการลับ สามารถประชุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้หากมีระบบควบคุมการประชุมที่มีความมั่นคงปลอดภัยเพียงพอ และเป็นกรณีที่ประธานวุฒิสภาเห็นสมควรตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการกิจการวุฒิสภา
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้พิจารณาไปเพียงประเด็นเดียว คือ การเปิดช่องให้ประชุมวุฒิสภาผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และยังไม่มีการลงมติหรือขอความเห็นชอบใดๆ ต้องพักการประชุมเกือบ 1 ชั่วโมง และสุดท้ายต้องเลื่อนการพิจารณาร่างข้อบังคับวุฒิสภา (ฉบับที่...) พ.ศ... ออกไป หลังจากถูก ส.ว. อภิปรายท้วงติงว่าการกำหนดข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา ดังกล่าวอาจขัดกับรัฐธรรมนูญ และมีผู้กล่าวหาไปยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้
โดยพล.อ.สิงห์ศึก แจ้งว่า จากการหารือระหว่างสมาชิก ประธาน และรองประธานแล้ว เห็นว่าให้เลื่อนพิจารณาข้อบังคับออกไปก่อนออกไปก่อน เพื่อให้เกิดความรอบคอบในการพิจารณา ซึ่งไม่มี ส.ว.คนใดเห็นแย้ง
สำหรับการเสนอให้นับองค์ประชุมในระหว่างการพิจารณาเรื่องด่วน หรือเรื่องที่ กมธ.วิสามัญพิจารณาแล้วเสร็จ และการที่ประชุมวุฒิสภาต้องยุติเรื่องที่พิจารณาไว้กลางคัน ทั้งที่เข้าสู่ระเบียบวาระและเนื้อหาแล้วถือเป็นครั้งแรกของที่ประชุมวุฒิสภา เพราะโดยปกติการแสดงตนเป็นองค์ประชุมของ ส.ว.จะเกิดขึ้นก่อนการลงมติใดๆ เท่านั้น