รายงานข่าวจากรัฐสภา เปิดเผยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตัวแทนเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค ได้เดินทางมายื่นหนังสือคัดค้านการต่อสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวกับพรรคก้าวไกล โดยมีนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค, นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ของพรรคก้าวไกล เป็นตัวแทนรับหนังสือ เพื่อขอให้พรรคการเมืองช่วยกันเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ถอนวาระการพิจารณาการต่อสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไป เพื่อให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่มาจากการเลือกตั้งเป็นผู้พิจารณา
นายชัยธวัช กล่าวว่า พรรคก้าวไกลมีจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการขยายสัญญาสัมปทานดังกล่าว จึงขอเป็นส่วนหนึ่งร่วมกับภาคประชาชน เรียกร้องให้ครม. ถอนวาระนี้ออกจากการพิจารณา และควรเร่งรัดให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.โดยเร็ว เพราะเรื่องนี้ควรพิจารณาจากผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ และครม.ใหม่ เพราะรัฐบาลชุดนี้ใกล้หมดวาระแล้ว และไม่อยากให้รัฐบาลแอบทำสัญญาสัมปทานแบบนี้ซ้ำสองอีก
"พรรคก้าวไกลไม่เห็นด้วย เราจะพยายามกดดันเรียกร้องรัฐบาลทุกวิถีทาง เพราะถือว่าการทำสัญญาดังกล่าว จะเป็นการมัดมือชกประชาชนจ่ายค่าโดยสารแพงถึง 65 บาท ไปอีก 30 ปี และสูญเสียโอกาสครั้งใหญ่ที่จะทบทวนสัญญาสัมปทาน และการพิจารณาดังกล่าวจะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ จึงไม่อยากเห็นการประชุม ครม.วันพรุ่งนี้ มีการพิจารณาวาระดังกล่าว" นายชัยธวัช กล่าวด้านนายวิโรจน์ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ควรต่ออายุสัมปทาน ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และไม่ควรใช้เหตุนี้ดึงเวลาจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ออกไปแบบไม่มีกำหนด เพราะคนกทม. ต้องการผู้ว่าฯ ที่ออกมาปกป้องผลประโยชน์ให้คนกทม. และต้องการผู้ว่าฯ กทม. ที่ช่วยให้คนกรุงเทพฯ ได้ใช้บริการขนส่งสาธารณะภายใต้อัตราค่าโดยสารที่เป็นธรรม เพื่อให้เกิดโอกาสทางด้านเศรษฐกิจจากการสัญจรในกทม. แต่การต่อสัญญาสัมปทานครั้งนี้ ผู้ที่ได้ประโยชน์คือบริษัทเดินรถไฟฟ้าอย่างเดียว
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า ที่สำคัญที่สุดคือรถไฟฟ้าสายสีเขียวมีผู้โดยสารใช้มากที่สุด และเป็นบันไดขั้นแรกของโครงข่ายใยแมงมุมในการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า และยังเห็นได้ว่าผู้ว่าฯ กทม.คนปัจจุบันไม่ยอมออกมาเปิดเผยรายละเอียดการต่อสัญญาสัมปทานดังกล่าว ดังนั้นตนและพรรคก้าวไกลจะทำทุกวิถีทาง เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของคนกทม.ให้ดีที่สุด ทุกสาย ทุกเส้น ทุกสี ซึ่งผู้ว่าฯ กทม.จะต้องเข้าไปร่วมเจรจาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับค่าโดยสารทั้งหมด