นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้ จะนำประเด็นเรื่องความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อเรือดำน้ำและอากาศยานไร้คนขับ (Unmanned Aerial Vehicle :UAV) ของรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กำลังสั่งให้กองทัพเรือแก้ไขปัญหาเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำที่ไม่มีเครื่องยนต์ก่อนจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ ซึ่งเป็นการจัดซื้อแบบรัฐต่อรัฐ
นอกจากนี้กองทัพเรือตั้งงบประมาณปี 2565 ไว้ทั้งหมด 4,100 ล้านบาทในการซื้อ UAV 3 ลำ เดิมทีจะซื้อจากประเทศจีนแต่ไม่กล้า เนื่องจากมีปัญหาที่ตกเป็นข่าวอยู่ทุกวันนี้ จึงเปลี่ยนไปซื้อของประเทศอิสราเอล ชื่อรุ่น Hermes 900
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า จะนำความผิดปกติในการประกวดราคานั้นใช้วิธีการคัดเลือกแบบไม่ได้เปิดประมูลทั่วไป แต่เชิญบางบริษัทมาร่วมเจรจาไปอภิปรายฯ ในสภา ซึ่งมั่นใจว่าข้อมูลฝ่ายค้านรอบนี้ พรรคเล็กจะไม่ยกมือให้ พล.อ.ประยุทธ์
"เป็นห่วงกลัวว่าจะเหมือนกับที่ซื้อเรือดำน้ำที่ไม่มีเครื่องยนต์ บริษัทนี้ขายของให้กับกองทัพเรือ มีแต่ของจากประเทศจีน โดยกองทัพเรือเพิ่งซื้อรถถังสะเทินน้ำสะเทินบกจากประเทศจีน และกองทัพบกซื้อรถถัง 1 ฝูง รุ่น VT4 จากบริษัทเดิม ดังนั้นขอท้า พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ประกาศไปเลยว่าให้อากาศยานไร้ค้นขับ (UAV) ของอิสราเอลให้ชนะไปเลย เพราะมันมีความผิดปกติ" นายยุทธพงศ์ กล่าว
การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งสุดท้ายของฝ่ายค้านจะทำให้เห็นถึงการบริหารประเทศมีปัญหาล้มเหลว ที่มีคนเสียชีวิตจากโควิด-19 ทุกวัน มากกว่าคนเสียชีวิตจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน
นอกจากนี้ยังเห็นว่า การที่รัฐบาลเร่งรีบการเซ็นสัญญาการทำท่อส่งน้ำประปาภาคตะวันออกในพื้นที่ EEC มูลค่า 25,000 ล้านบาทที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ค.นี้ แต่ทำไมไม่มีการทำ e-bidding เปิดประมูล โดยในวันพรุ่งนี้ (29 เม.ย.) จะไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์, นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ให้ยับยั้งการเซ็นสัญญา เพื่อเปิดประมูลอย่างโปร่งใส