นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีหากมีการยุบสภาว่า พรรคก้าวไกลมีแผนรองรับทุกฉากทัศน์ที่จะเกิดขึ้น และมองว่าการยุบสภาอาจเกิดขึ้นได้
ส่วนเรื่องกฎหมายลูก 2 ฉบับใหม่ที่อาจจะออกไม่ทันใช้เลือกตั้งครั้งที่จะเกิดขึ้นนั้น พรรคก้าวไกลก็พร้อมหากต้องกลับไปใช้กฎหมายเดิม โดยในการตั้งตัวแทนประจำเขตเลือกตั้ง พรรคจะตั้งให้ครบทุกเขต แม้กฎหมายใหม่จะไม่บังคับ แต่จะดำเนินการเพื่อสร้างฐานของพรรคในทุกพื้นที่
สำหรับความคืบหน้าการคัดเลือกว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ขณะนี้อยู่ในกระบวนการคัดเลือก และยังเปิดรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่ออย่างต่อเนื่อง เพราะมีผู้สมัครจำนวนมาก ซึ่งอาจจะมีความชัดเจนช่วงใกล้เลือกตั้ง ทั้งนี้ พรรคได้คัดเลือกว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตไปแล้วประมาณ 300 คน ซึ่งปัจจุบันพรรคมี ส.ส.เขตที่ยังอยู่กับพรรคราว 13 คน ดังนั้นอีก 300 กว่าเขตจะเป็นคนหน้าใหม่ และจะมีผู้ที่มาจากพรรคอื่นด้วย
และในวันที่ 9 ก.ย.นี้พรรคจะเปิดแคมเปญรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พร้อมทั้งจะทยอยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ก่อนจะทยอยไปยังพื้นที่อื่นๆ
นายพิจารณ์ ยังกล่าวอีกว่า หากต้องจัดเลือกตั้งด้วยสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้วยการหาร 100 พรรคก้าวไกลตั้งเป้าไว้ที่ 120 ที่นั่ง แบ่งเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ 30 ที่นั่ง และส.ส.เขต 90 ที่นั่ง โดยประเมินว่าพรรคจะได้ส.ส.เขตมากขึ้น เนื่องจากผลงานที่ผ่านมาของพรรค และการนำเสนอนโยบายที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจและปากท้องจะตอบโจทย์ประชาชนได้มากกว่าสมัยที่เป็นพรรคอนาคตใหม่ (อนค.)
นอกจากนี้ พรรคยังมีเวลาคัดเลือกตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.มากกว่าการเลือกตั้งครั้งก่อน โดยผู้สมัครหลายคนมีคุณสมบัติที่น่าสนใจ และเริ่มทำพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องพอสมควร
ส่วนกรณีที่นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประกาศว่าจะไม่ลงสมัคร ส.ส.สมัยหน้า อีกทั้งน.ส.วรรณวรี ตะล่อมสิน ส.ส.กทม. ก็ประกาศหยุดบทบาทส.ส.เช่นเดียวกัน นายพิจารณ์ ยืนยันว่า นางอมรัตน์ไม่มีปัญหากับพรรค สำหรับพรรคก้าวไกล ส.ส.หลายคนไม่ได้คิดว่าจะทำงานในหน้าที่ส.ส.แบบระยะยาว ไม่ได้ยึดติดกับการเป็น ส.ส.จึงอยากเปิดโอกาสให้คนอื่นมาทำหน้าที่แทน