นายวรวัจน์ เอื้อภิญญกุล ส.ส.แพร่ ในฐานะคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อศึกษาประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คาดว่า ในวันที่ 2 เม.ย.นี้จะยื่นเรื่องให้กับประธานรัฐสภาบรรจุวาระการประชุมสภาเพื่อเรียกประชุมลงมติให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมทั้งรายชื่อ ส.ส.รับรองไม่น้อยกว่า 96 คนตามที่กฎหมายกำหนดไว้ หลังจากวานนี้วิปรัฐบาลมีมติให้เสนอแก้ไข 5 มาตราสำคัญในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน สำหรับขั้นตอนจากนี้ประธานวุฒิสภา ซึ่งทำหน้าที่ประธานรัฐสภาจะกำหนดวาระการประชุม และเรียกประชุมรัฐสภา เพื่อเข้าสู่กระบวนการแก้ไขเพิ่มเติม โดยคาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน นายวรวัจน์ คาดว่า การยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญน่าจะแล้วเสร็จทันก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสินคดียุบพรรคมัชฌิมาธิปไตย พรรคชาติไทย และพรรคพลังประชาชน ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 237 ที่เกี่ยวข้องกับการยุบพรรคนั้นจะกำหนดให้ความผิดของกรรมการบริหารพรรคเป็นความผิดส่วนบุคคล และปิดช่องทางการใช้ดุลพินิจ "สิ่งใดที่เป็นเผด็จการจะแก้ไขให้หมด รวมทั้งองค์กรที่ตั้งมาตามคำสั่งของ คปค.ต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ" นายวรวัจน์ กล่าว