วิปรัฐบาลเลี่ยงบาลีเลิกตัดม.309 แต่เพิ่มข้อความเพื่อให้ศาลใช้ดุลพินิจ

          ที่ประชุมวิปรัฐบาลได้ข้อสรุปที่เป็นทางออกเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ โดยยืนยันจะยื่นใน 5 ประเด็นเช่นเดิม ส่วนในมาตรา 309 นั้นจะไม่ตัดทิ้งอย่างที่เคยแสดงความเห็นไว้ก่อนหน้านี้แต่จะเพิ่มเติมข้อความเข้าไป เพื่อเลี่ยงกระแสคัดค้านของสังคม
          "มาตรา 309 นั้นเห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคชาติไทยที่จะไม่ให้ตัดทิ้งเนื่องจากขณะนี้สังคมเข้าใจผิดว่าจะเป็นการยกเลิก คตส. หรือเปิดช่องให้ฟ้อง คมช. ดังนั้นเพื่อตัดความวิตก ที่ประชุมฯ จึงเห็นด้วย แต่ให้เพิ่มข้อความในวรรคต่อไป" นายพีรพันธุ์ พาลุสุข วิปรัฐบาล กล่าว
          วิปเสนอเพิ่มเติมข้อความ"ความในวรรคหนึ่งมิให้บังคับใช้กับบรรดาการใด หรือการกระทำใดที่มิได้เป็นไปตามหลักการอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย หลักนิติธรรม หลักสิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญนี้ ประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พันธกรณีระหว่างประเทศที่ประเทศไทยมีอยู่หรือหลักรัฐธรรมนูญทั่วไป ทั้งนี้ ไม่ว่าการนั้นหรือการกระทำนั้นเกิดขึ้น ก่อนหรือหลังวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2549 และรัฐธรรมนูญนี้"
          นายพีระพันธ์ กล่าวว่า การเพิ่มข้อความดังกล่าวเพื่อให้ศาลสามารถใช้ดุลพินิจในการวินิจฉัยได้มากขึ้น ส่วนมาตรา 237 นั้นเป็นไปตามร่างแก้ไขเดิมโดยจากนี้จะให้แต่ละพรรคไปหาข้อสรุปอีกครั้งก่อนจะนำเข้าที่ประชุมวิปรัฐบาลในสัปดาห์หน้า
          ส่วนกรณีที่ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค เห็นว่าควรแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับนั้นขึ้นอยู่กับพรรคจะตัดสินใจอย่างไร แต่วิปรัฐบาลมีหน้าที่ศึกษาประเด็นที่จะแก้ไขเท่านี้ ไม่มีอำนาจชี้ขาด
          ด้าน นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า พรรคมีความเห็นต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญแตกต่างกัน 2 แนวทาง คือ 1.แก้เฉพาะบางมาตรา ซึ่งเบื้องต้นจะแก้ไขประมาณ 7 ประเด็น และ 2.แก้ไขทั้งฉบับ แต่ส่วนตัวเห็นด้วยกับแนวทางของ นพ.สุรพงษ์ ที่สนับสนุนให้แก้ไขทั้งฉบับ เพราะแม้การแก้ไขเพียงบางมาตราจะทำได้รวดเร็ว แต่เป็นจุดอ่อนทางการเมือง เพราะไม่สามารถสลัดคำว่าประโยชน์ส่วนตัวออกไปได้ ซึ่งสิ่งที่ นพ.สุรพงษ์ กล่าวนั้นถูกต้องว่าหากพรรคไม่ข้ามพ้นความกลัวของการยุบพรรค จะสู้อย่างไรก็แพ้ แม้ว่าพรรคจะมีความชอบธรรมในการแก้ไข เพราะไม่ได้รับความยุติธรรมก็ตาม 
          "เราต้องยืนยันการไม่ยอมรับร่างรัฐธรรมนูญ 2550 แต่เดิม ด้วยการแก้ไขทั้งฉบับ เพราะการแก้รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตยจะได้แรงสนับสนุนจากประชาชน ซึ่งจะเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กเป็นเกราะกำบังให้ เมื่อมีประชาชนโอบล้อมไม่มีวันแพ้ แต่การแก้ไขบางมาตราเท่ากับสลัดกำแพงนั้นออก" นายจตุพร กล่าว
          นายจตุพร กล่าวอีกว่า หลังจากการประชุมของวิปรัฐบาลในวันที่ 4 เม.ย.นี้แล้วจะต้องส่งเรื่องกลับเข้าที่ประชุมพรรคอีกครั้งเพื่อลงมติ แต่ขณะนี้พรรคยังไม่มีมติใดในเรื่องนี้
          ขณะที่ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ วิปรัฐบาล กล่าวว่า ส.ส.ภาคอีสานของพรรคส่วนใหญ่เห็นด้วยให้แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยให้นำรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2540 กลับมาใช้ โดยจะเสนอต่อที่ประชุมพรรคในวันที่ 8 เม.ย.นี้