นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เปิดเผยว่า คตส.จะเป็นผู้ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเอง ในคดีการทุจริตจัดซื้อกล้ายางพารา 90 ล้านต้น หลังจากที่คณะกรรมการร่วมระหว่าง คตส.กับอัยการสูงสุด ยังมีความเห็นที่แตกต่างข้อกฎหมายเรื่องการแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ถูกกล่าวหา "เมื่อความเห็น 2 ฝ่ายไม่ตรงกัน คตส.จะดำเนินการตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาความอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาตรา 11 (2) ซึ่งให้อำนาจ คตส.ให้สามารถส่งฟ้องเองได้ โดยจะประสานงานกับทนายความเพื่อมาให้ช่วยร่างและส่งฟ้องสำนวนต่อศาลต่อไป" นายสัก ระบุ โฆษก คตส.ยอมรับว่า คตส.มีภาระมากขึ้นในการฟ้องคดีเองโดยไม่อาศัยอัยการสูงสุด แต่จากนี้จะขอความอนุเคราะห์จากสภาทนายความแห่งประเทศไทยให้ช่วยพิจารณาสำนวนก่อนที่จะยื่นฟ้องตามกระบวนการต่อไป สำหรับคดีการทุจริตจัดซื้อกล้ายางพารา ถือเป็นคดีที่ 2 ต่อจากคดีหวยบนดินที่ คตส.และอัยการสูงสุดมีความเห็นต่างกันจน คตส.ต้องแต่งตั้งทีมทนายความขึ้นมายื่นฟ้องต่อศาลเอง