อภิปรายวันแรก ฝ่ายค้านงัดขยายประเด็นเก่าซักฟอกรัฐบาล

ข่าวการเมือง Wednesday February 15, 2023 15:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ในวันแรก ฝ่ายค้านยังคงเดินหน้าอภิปรายโดยมีการหยิบยกนำประเด็นในเรื่องของปัญหาการทุจริต ปัญหายาเสพติด กลุ่มทุนจีนสีเทา การเอื้อประโยชน์ให้กับภาคเอกชน

*ปัญหาทุจริตในกองทัพ

นายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย (สร.) อภิปรายโจมตีการทุจริตในกองทัพ โดยยกกรณีกองทัพภาคที่ 1 กีดกันไม่ให้ประชาชนที่มีความเดือดร้อนเรื่องที่ดินทำกิน ปล่อยให้ทหารกัมพูชาบุกข้ามเขตปักปันชายแดนเข้ามาขับไล่คนไทย ไม่ยอมให้คนไทยเข้าไปทำมาหากินในบริเวณนั้น ขณะที่กัมพูชาสร้างชุมชนติดเขตปักปันชายแดน เหตุดังกล่าวเท่ากับไทยสูญเสียอธิปไตยในดินแดนไปแล้ว ซึ่งตรงนี้ยังเป็นจุดพักคนลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย นอกจากนี้ตนคิดว่าสาเหตุที่ไม่ยอมให้คนไทยเข้าไปทำมาหากินในบริเวณนั้น เพราะกลัวคนไทยจะเข้าไปรับรู้เรื่องขบวนการค้าของเถื่อน

เนื่องจากกองทัพภาคที่ 1 อ้างเรื่องความมั่นคง ขอเช่าพื้นที่ป่าสวนแห่งชาติเป็นเวลานาน และคงกฎอัยการศึกไว้ เพื่อคงอำนาจเบ็ดเสร็จที่จะใช้หาผลประโยชน์ ซึ่งถือเป็นการทุจริตเชิงนโยบาย และอยากเรียกร้องให้มีการปฏิรูปกองทัพเสียที

สำหรับกระบวนการขอออกเอกสารสิทธิ์ของประชาชนนั้นถูกหน่วยงานราชการโยนกันไปมา พอคนไทยเตรียมขอรังวัดที่ดินก็มีทหารกัมพูชาบุกรุกข้ามแดนเข้ามาไล่ยิง ขณะที่คนไทยไม่ได้รับการคุ้มครองจากกองกำลังทหารพราน 13 (ทพ.13) ที่ดูแลพื้นที่บริเวณนั้น เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนลงไปในพื้นที่จังหวัดสระแก้วแล้วพบว่าไม่สามารถเข้าไปในถนนศรีเพ็ญได้ และมีทหารกัมพูชาประมาณ 50 นายบุกเข้ามาข่มขู่การรังวัดที่ดิน

*รัฐบาลเอื้อเอกชนขยายสัมปทานทางด่วน

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ อภิปรายเรื่องการแก้ไขสัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 (ทางพิเศษศรีรัช รวมถึงส่วนดี) และสัญญาโครงการทางด่วนสายบางปะอิน - ปากเกร็ด (ทางพิเศษอุดรรัถยา) และต่อมา มีประชาชนไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง ซึ่งศาลมีความเห็นว่า โครงการทางด่วน เมื่อกำหนดระยะเวลาตามสัญญาจะต้องตกเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ต้องขยายระยะเวลาออกไปอีก 15 ปี 8 เดือน และมีผลต่อการบริหารจัดการทางด่วน รวมถึงค่าใช้จ่ายของผู้บริโภค แต่รัฐบาลกลับเอาทรัพย์สินแสนกว่าล้านไปประนีประนอม จนสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) บอกว่า การไปยินยอมถือเป็นการยอมรับหนี้ ทำให้ขาดทุนเกือบ 7 หมื่นบ้านบาท

เมื่อมีการต่อสัญญาออกไปทำให้ค่าโดยสารจะมีการปรับราคาในปี 77 จาก 60 บาทเป็น 70 บาท ซึ่งถือว่า สูงมาก พร้อมทั้งมองว่า การทางพิเศษถือเป็นเสือนอนกิน มีกำไรตลอดอย่างน้อย 6,000 กว่าล้านทุกปี และเงินตรงนี้เป็นเงินหลวงที่ต้องมาจ่าย

"การตัดสินใจของพล.อ.ประยุทธ์ กับคณะรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบร่วมกัน ท่านไปขโมยเงินหลวง ทั้งที่เรื่องคดีในอนาคต อย่างน้อยที่สุดต้องสู้ไปอีก 10 ปี ทำไมไม่นึกถึงความสุขของประชาชน เพราะการเดินทางของประชาชนทุกวันนี้แพงมาก" พ.ต.อ.ทวี กล่าว

พร้อมตั้งข้อสังเกตุว่า เรื่องนี้ถือเป็นการสมคบคิดหรือไม่ การที่รัฐบาลมักง่าย เอาเรื่องในอดีตว่าจะแพ้มาต่อสัญญา ศาลปกครองบอกว่า ทำให้สาธารณะประโยชน์ของแผ่นดินที่ประชาชนควรได้ใช้ และมีค่าผ่านทางถูกลง เมื่อศาลปกครองสูงสุดตัดสินแล้ว การต่อสัญญาควรใช้อำนาจกฏหมาย ไม่ใช่ใช้อำนาจทางปกครอง แต่นายกรัฐมนตรีกลับใช้อำนาจจากมติครม.ไปต่อสัญญา

*รัฐบาลล้มเหลวแก้ปัญหายาเสพติด

นางบุศรินธญ์ วรพัฒนานันน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ (พช.) อภิปรายว่า รัฐบาลประสบความล้มเหลวในการแก้ปัญหายาเสพติด เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่ปล่อยให้เครือข่ายทุนจีนสีเทาของนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าว ใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีแผ่ขยายอิทธิพลครอบคลุมไปทั่วเมือง สามารถหายาเสพติดที่มีขายเกลื่อนเมือง และคดีที่หลานชายของนายกรัฐมนตรีเข้าไปเกี่ยวข้องมีความคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว

ขณะที่ระบบเศรษฐกิจเสียหาย ประชาชนเดือดร้อน ทำมาหากินฝืดเคือง แต่รัฐบาลขาดวิสัยทัศน์ในการแก้ไขปัญหาด้วยการกู้เงินมาแจก ไม่ได้แก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ไม่ได้เป็นการสร้างงาน เพื่อลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ ตนอยากถามว่ารัฐบาลกู้เงินเป็นจำนวนมากขนาดนั้นแล้วช่วยให้ระบบเศรษฐกิจดีขึ้นหรือไม่ ซึ่งคงไม่ดีขึ้นเพราะมีแต่คนจนเพิ่มมากขึ้น

ผู้นำที่มาจากการรัฐประหารขาดคุณธรรมและจริยธรรม มีความบกพร่องทางอารมณ์ เย่อหยิ่ง จองหอง ไม่เห็นหัวประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่แก้ไขได้ยาก นอกจากนี้ยังขาดความรู้ความสามารถในการแก้ไขปัญหา ทำให้ประเทศชาติและประชาชนเสียโอกาส

*แก้เศรษฐกิจล้มเหลว สร้างหนี้เพิ่ม

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ (ทศล.) อภิปรายว่า รัฐบาลขาดวิสัยทัศน์และประสิทธิภาพในการแก้ไขหลายเรื่อง ได้แก่

1. การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจล้มเหลว ทำให้ปริมาณหนี้สาธารณะและหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นจากเดิมมากมายหลายเท่าตัว

2. ปล่อยให้ยาเสพติดแพระระบาดเต็มเมือง การปราบปรามไม่หมดไปเพราะมีการให้สินบนเจ้าหน้าที่จับกุม

3. พัวพันเงินทุจริตอีบิดดิ้งภาครัฐและส่วยออนไลน์ เนื่องจากอีบิดดิ้งภาครัฐของกรมบัญชีกลางมีพฤติกรรมน่าสงสัยว่าจะมีการฮั้วกัน โดยมียอดทุจริตเฉลี่ยปีงบละ 2 หมื่นล้านบาท แล้วส่งให้พรรคคืนในรูปแบบการซื้อโต๊ะจีน ส่วนเรื่องส่วยออนไลน์มีความเกี่ยวพันกับอดีตประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งเป็นผู้ที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง

4. การให้สิทธิแก่ต่างด้าวที่เข้ามาลงทุน ซึ่งถือเป็นการขายชาติ หรือขายแผ่นดินของบรรพบุรุษ

*จี้พล.อ.ประยุทธ์ ยุติบทบาททางการเมือง

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 62 ระบบเศรษฐกิจถูกแช่แข็ง ประเทศเพื่อนบ้านกลับคืนสู่ภาวะก่อนวิกฤตโควิด-19 แล้ว จากความผิดพลาดเรื่องการเตรียมวัคซีน การล็อคดาวน์ประเทศ การแก้ปัญหาเงินเฟ้อ ประชาชนมีรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย คนไทยจนลง 3.1% ขณะที่ราคาน้ำมันในช่วง 6 ปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าตัว การแก้ไขปัญหาของรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือกองทุนน้ำมันฯ ไม่ได้ช่วยเหลือประชาชน การสำรองปริมาณไฟฟ้าเกินความจำเป็นทำให้ประชาชนแบกรับค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft)

รัฐบาลไม่รู้จักการหารายได้แต่ใช้วิธีการกู้เงิน ทำให้มีหนี้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่สัดส่วนหนี้ครัวเรือนอยู่ที่ 89.3% สูงสุดในรอบ 16 ปี มีปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ภาคการส่งออกเริ่มขยายตัวติดลบในช่วงปลายปี และขาดดุลมากถถึง 6.5 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นผลพวงจากการรัฐประหารที่สหภาพยุโรปไม่ยอมเจรจาการค้าด้วย การปฏิรูปการศึกษาล้มเหลวไม่เป็นท่า ความเหลื่อมล้ำขยายตัวเพิ่มทวีคูณเนื่องจากรวยกระจุกจนกระจาย เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นมากมายจนอันดับตกจาก 80 ไปอยู่ที่ 100 กว่า

"ตลอด 8 ปีของการบริหารงานของรัฐบาล ปัญหาไม่ได้รับแก้ไข มีแต่เพิ่มงอกเงยขึ้นมา...พล.อ.ประยุทธ์ ควรจะพิจารณาตัวเองและยุติบทบาททางการเมืองได้แล้ว ท่านได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ เขาไม่เชื่อว่าท่านจะชนะเลือกตั้ง แต่จะมีกลไกที่จะทำให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี" นายจุลพันธ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ