เลือกตั้ง'66: ศาลสั่งห้าม "ชูวิทย์" แฉภูมิใจไทยปมกัญชา

ข่าวการเมือง Wednesday April 5, 2023 18:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เลือกตั้ง'66: ศาลสั่งห้าม

นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เปิดเผยว่า หลังจากพรรคมอบอำนาจให้ตนไปยื่นฟ้องนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ต่อศาลแพ่ง ฐานกระทำละเมิดต่อพรรค ในการแพร่ข่าว ไขข่าว ฝ่าฝืนต่อความเป็นจริงทำให้พรรคเสียหาย เป็นการฟ้องละเมิดและเรียกค่าเสียหาย และยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว และไต่สวนฉุกเฉิน ห้ามมิให้นายชูวิทย์ ดำเนินการตามที่ถูกฟ้อง คือการกล่าวหาบิดเบือนกับพรรคภูมิใจไทย

โดยเมื่อวานนี้ (4 เม.ย.) คณะตุลาการพิจารณาแล้วเห็นว่าคำร้องเป็นการร้องห้ามมิให้พูด อาจจะเป็นการฟ้อง ซึ่งอาจจะเป็นผลกระทบต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งคำร้องไม่เป็นการเฉพาะเจาะจง เป็นการยื่นคำร้องทั่วไป จึงยกคำร้อง แต่วันนี้พรรคได้ไปยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว ขอไต่สวนฉุกเฉินอีก และมีการไต่สวนจนเสร็จสิ้นเมื่อช่วงบ่าย

โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า นายชูวิทย์ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนหลายสาขา ทั้งทางวิทยุ โทรทัศน์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งใช้เครื่องกระจายเสียงประกาศข้อเท็จจริงต่างๆ ตามคำฟ้องในที่สาธารณะ เพื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่าพรรคมีนโยบายที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และสมาชิกพรรคไม่เหมาะสมที่จะได้รับเลือกเป็น ส.ส. ซึ่งข้อเท็จจริง ตามที่จำเลยกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายต่อบุคคลทั่วไปนั้น ยังมิได้มีการพิสูจน์ว่าเป็นความจริงตามที่นายชูวิทย์ กล่าวอ้างหรือไม่ จึงเป็นการกระทำซ้ำ และกระทำต่อไป ซึ่งพรรคฟ้องกล่าวอ้างว่านายชูวิทย์ กระทำละเมิด

เมื่อพิจารณาคำฟ้องของพรรค ประกอบกับภาพ และเสียงของนายชูวิทย์ ที่บันทึกไว้โดยแผ่นดีวีดีท้ายคำฟ้อง และวัตถุพยานแล้วได้ความว่าเมื่อวันที่ 4 เม.ย.66 นายชูวิทย์กล่าวต่อบุคคลทั่วไปโดยมีข้อความว่า "ไม่เอาภูมิใจไทย ไม่เอาพรรคบ้ากัญชา" ประกอบกับนายชูวิทย์ ได้ใช้ป้ายแสดงข้อความว่า "พรรคขายกัญชา เยาวชนติดกัญชาเพราะมึง" ซึ่งบุคคลทั่วไปสามารถเข้าใจได้ว่าหมายถึงพรรคภูมิใจไทย แม้นายชูวิทย์จะมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมาย แต่การกระทำดังกล่าว ต้องไม่เป็นการละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่นตามกฎหมาย

เมื่อพรรคได้รับความคุ้มครอง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 423 ซึ่งห้ามมิให้ผู้ใดกล่าว หรือไขข่าวแพร่หลาย ซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความเป็นจริง เป็นที่เสียหายแก่ชื่อเสียง หรือเกียรติคุณของพรรค หรือเสียหายแก่ทางทำมาหาได้ หรือทางเจริญของพรรค เห็นว่าฟ้องพรรคมีมูล และมีเหตุผลเพียงพอที่จะนำวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษามาใช้บังคับ

สำหรับคำขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว โดยห้ามมิให้นายชูวิทย์ กระทำด้วยประการใดๆ ในการรณรงค์ไม่ให้ประชาชนเลือกพรรคในการเลือกตั้ง ส.ส.นั้น เห็นว่า การกระทำดังกล่าวมีกฎหมายบัญญัติห้ามไว้โดยเฉพาะแล้ว ตามมาตรา 73 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 โดยเป็น พ.ร.บ.ที่มีโทษทางอาญา ศาลไม่จำต้องมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวอีก

ส่วนกรณีที่พรรคขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้จำเลยกล่าว หรือแสดงการกระทำด้วยวิธีใดๆ เกี่ยวกับเรื่องการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มที่เกี่ยวข้องกับพรรคนั้น ตามพยานหลักฐานพรรคในชั้นไต่สวนไม่ปรากฏว่าภายหลังจากพรรคยื่นฟ้องคดีนี้แล้ว นายชูวิทย์ได้กระทำซ้ำหรือกระทำต่อไป โดยการกล่าวหรือแสดงการกระทำด้วยวิธีใดๆ เกี่ยวกับเรื่องการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มที่เกี่ยวข้องกับพรรคอีก จึงไม่จำต้องมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวในส่วนนี้

โดยศาลมีคำสั่งห้ามนายชูวิทย์ กล่าวหรือแสดงการกระทำด้วยวิธีใดๆ เฉพาะเรื่องกัญชาที่เกี่ยวข้องกับพรรคในระหว่างพิจารณาจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเสียหายที่พรรคอาจได้รับต่อไปเนื่องจากการกระทำของนายชูวิทย์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 254 (2)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ