อิหร่านอ้างไม่มีการเผชิญหน้าระหว่างเรือลาดตระเวนอิหร่านและเรือรบสหรัฐ

          รัฐบาลอิหร่านยืนยันว่า ไม่มีการเผชิญหน้ากันระหว่างเรือรบสหรัฐและเรือลาดตระเวนของอิหร่านในอ่าวเปอร์เซีย หลังจากมีข่าวว่าเรือรบสหรัฐได้ยิงปืนเตือนเรือลาดตระเวน 2 ลำของอิหร่าน ซึ่งข่าวดังกล่าวเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงเมื่อคืนนี้
          เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลอิหร่านกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "ถ้าเรือรบของสหรัฐหรืออังกฤษยิงปืนใส่เรืออิหร่านจริงอย่างที่เป็นข่าว รับรองว่าทั้งเรือสหรัฐและอังกฤษจะต้องถูกตอบโต้จากกองทัพเรืออิหร่านอย่างรุนแรงทันที เราเชื่อว่าที่นาวิกโยธินสหรัฐยิงใส่นั้นอาจเป็นแค่เรือหาปลาหรือเรือส่วนบุคคลเท่านั้น แต่ไม่ใช่เรือลาดตระเวนของทางการอิหร่านอย่างแน่นอน และก็ไม่แน่ว่าเรือเหล่านี้เป็นเรือสัญชาติอิหร่านหรือไม่"
          "เราขอยืนยันว่าไม่มีการเผชิญหน้ากันระหว่างเรือลาดตระเวนของอิหร่านและเรือรบของสหรัฐในอ่าวเปอร์เซียอย่างแน่นอน" เจ้าหน้าที่อิหร่านกล่าว
            เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา เคยเกิดเหตุการณ์ที่เรือรบของอิหร่านและสหรัฐเผชิญหน้ากันที่ช่องแคบฮอร์มุซ โดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐรายงานว่า เรือเร็วสัญชาติอิหร่าน 5 ลำได้แล่นเข้าประชิดและข่มขู่โจมตีเรือรบสหรัฐ 3 ลำในช่องแคบฮอร์มุซซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันที่สำคัญของโลก
          ในช่วงเวลานั้นนายมูฮัมหมัด อาลี ฮอสซานี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่านกล่าวว่าการเผชิญหน้ากันเป็น "สถานการณ์ที่ปกติ" ขณะที่สหรัฐได้ยื่นหนังสือประท้วงอิหร่านอย่างเป็นทางการเพื่อตอบโต้ที่เรือเร็วของอิหร่านอิหร่านแล่นเข้าตีวงล้อมเรือรบสหรัฐในช่องแคบฮอร์มุซ
          สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ข่าวที่ว่าเรือรบสหรัฐได้ยิงปืนเตือนเรือลาดตระเวน 2 ลำของอิหร่านเมื่อวานนี้นั้น ส่งผลให้นักลงทุนในตลาดน้ำมันนิวยอร์กตื่นตระหนก และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 2.46 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 118.52 ดอลลาร์ หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 119.55 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้