นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ร่วมหารือถึงนโยบายและรับประทานอาหารกลางวันกับรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยอีก 16 คน ได้แก่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี, นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ, นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง, นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.ต่างประเทศ, น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา, นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม, นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม, นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมช.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย, นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข
นายเศรษฐา กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นการพบกันอย่างเป็นทางการครั้งแรก โดยในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) จะมีการเข้าถวายสัตย์ฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนเคยพูดไม่ถูกว่าเราเป็นรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย แต่ตอนนี้อยากให้เห็นว่าเป็นรัฐบาลของประชาชน และพรรคร่วม 11 พรรค ซึ่งต้องให้เกียรติพรรคร่วมด้วย
ในช่วงที่เลือกนายกฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี นายภูมิธรรมได้พูดไว้ว่าพรรคเพื่อไทยมาด้วยต้นทุนที่สูง แต่จริงๆ แล้ว เราเทหมดหน้าตักในการทำงานครั้งนี้ มีตัวแทนจากประชาชนในการดูแลบ้านเมือง มีหลายคนอยากอยู่ตรงนี้ แต่พรรคฯ ได้คัดสรรมาอย่างดีแล้ว เรื่องของการทุ่มเททำงานเพื่อประชาชนเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด การทำงาน ภายใต้งบประมาณมีขีดจำกัด ซึ่งอาจได้ในต้นปีหน้า แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นขีดจำกัดในการทำงาน เพราะมีหลายอย่างที่สามารถเริ่มทำได้ก่อน เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งแต่ละกระทรวงก็มีแผนงานมากมาย
""บางอย่างอยู่ที่งบประมาณ บางอย่างอยู่ที่กฎหมาย แต่ไม่ใช่ว่าเราต้องอยู่ที่ขีดจำกัดพวกนั้น อะไรทำได้ก็ทำ ให้ประชาชนเห็นว่าเราทำงานอย่างเต็มที่ เวลาไปเจอประชาชน อย่าอธิบายว่าทำไมเราทำไม่ได้ เราถูกเลือกเข้ามาให้ทำให้ได้" นายเศรษฐา กล่าว
นายเศรษฐา กล่าวว่า รัฐบาลประชาชน ต้องลดช่องว่างระหว่างฝ่ายบริหารกับประชาชนให้ได้ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงผู้บริหาร อยากให้เป็นมิติใหม่ในการทำงานของรัฐบาลนี้ ซึ่งตนจะเน้นย้ำเรื่องนี้กับพรรคร่วมอีกครั้ง