"ยิ่งลักษณ์" รอด! ศาลฎีกาฯ มติเอกฉันท์ยกฟ้องคดี Roadshow สร้างอนาคตไทย

ข่าวการเมือง Monday March 4, 2024 12:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีมติเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ให้ยกฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกับพวกรวม 6 คน ในคดีที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดว่าร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริต มุ่งหมายไม่ให้มีการแข่งขันเสนอราคาอย่างเป็นธรรม กรณีการจัดจ้างโครงการ Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2022 วงเงิน 240 ล้านบาท

คดีนี้ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ จำเลยที่ 1, นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 2, นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 3, บมจ.มติชน (MATI) จำเลยที่ 4, บมจ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท (SPORT) จำเลยที่ 5 และ นายระวิ โหลทอง เป็นจำเลยที่ 6

คดีดังกล่าว ป.ช.ป. กล่าวหาว่า จำเลยที่ 1-3 ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาจัดจ้างโครงการ Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020 อย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้อประโยชน์แก่จำเลยที่ 4 และ 5 ให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ

คดีดังกล่าว จำเลยที่ 1-3 กำหนดตัวบุคคลผู้รับจ้างไว้ล่วงหน้า ให้จำเลยที่ 4 เป็นผู้รับจ้างจัดทำโครงการ Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020 จำนวน 12 จังหวัด โดยยังไม่ได้คัดเลือกผู้เสนอราคา จำเลยที่ 3 เสนอ และจำเลยที่ 1 อนุมัติใช้งบกลาง 40 ล้านบาท ทั้งที่มิใช่กรณีจำเป็นหรือเร่งด่วน ต่อมาจำเลยที่ 3 เสนอจำเลยที่ 2 อนุมัติหลักการจัดโครงการที่จังหวัดหนองคายและนครราชสีมา ในวงเงินไม่เกิน 40 ล้านบาท โดยวิธีพิเศษ จำเลยที่ 3 ครอบงำจูงใจให้คณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษยอมรับการเสนอราคาของจำเลยที่ 4 หลังจากนั้นจำเลยที่ 3 เสนอ และจำเลยที่ 2 อนุมัติจ้างย้อนหลัง

ส่วนโครงการที่เหลืออีก 10 จังหวัด วงเงินไม่เกิน 200 ล้านบาท จำเลยที่ 3 เสนอจำเลยที่ 2 อนุมัติหลักการจัดโครงการโดยวิธีพิเศษ ต่อมาจำเลยที่ 2 อนุมัติตามที่จำเลยที่ 3 เสนอให้จ้างจำเลยที่ 4 และที่ 5 ตามที่ตกลงไว้ล่วงหน้า อีกทั้งจำเลยที่ 3 ยังเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอให้มีมติยกเว้นการลงนามในสัญญาก่อนได้รับเงินประจำงวด จำเลยที่ 1 และที่ 2 ซึ่งอยู่ในที่ประชุมได้ลงมติอนุมัติด้วย

ศาลฎีกาฯ วินิจฉัยว่า การที่จำเลยที่ 2 และที่ 3 เสนอให้จำเลยที่ 1 อนุมัติใช้งบกลาง และจำเลยที่ 1 อนุมัติใช้งบกลางมาดำเนินการโครงการ Roadshow ไม่ได้เป็นการฝ่าฝืนมติคณะรัฐมนตรี และการจัดจ้างโครงการ Roadshow อีก 10 จังหวัด เข้าเงื่อนไขตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้ 2 สื่อได้งานจัดอีเวนต์โรดโชว์ล่วงหน้า

ก่อนหน้านี้ เมื่อ 26 ธ.ค. 66 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายกฟ้องและให้เพิกถอนหมายจับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในการสั่งย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี จากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)

หลังจากคดี Roadshow สร้างอนาคตไทย แล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังมีคดีค้างในชั้น ป.ป.ช. อีก 3 คดี คือ คดีซื้อข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี), คดีจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทางการเมือง ระหว่างปี 2548-2553 และ คดีร่ำรวยผิดปกติจากจำนำข้าว

นายธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและโยบาย กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีคดีอาญาที่ถูกยกฟ้องไปแล้ว 2 คดีทำให้ตอนนี้ไม่มีคดีอาญาตกค้างอยู่ในศาล มีเพียงโทษจำคุกเพียง 5 ปีซึ่งถือว่าน้อยกว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และตนเชื่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะใช้โมเดลเดียวกับนายทักษิณกลับสู่ประเทศไทย ในการแสดงเจตจำนงขอกลับมารับโทษที่ประเทศไทยก่อน และจะขอพระราชทานอภัยโทษ ส่วนหลังจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการของกระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ ซึ่งตนมองว่าหลังจากนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์สามารถกลับไทยได้ เพราะเป็นจังหวะดีที่สุดของรัฐบาลที่มีเสถียรภาพทางการเมือง ไม่มีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีและยังไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเร็วๆนี้อีกทั้งยังมองว่าปีนี้เป็นปีมหามงคล เชื่อว่าเป็นจังหวะดีที่จะกลับสู่ประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ