"สมัคร" ชี้ฝ่ายค้านดูแคลนเหตุอยากเป็นรัฐบาล/เขาพระวิหารไม่เสียสิทธิ์

ข่าวการเมือง Tuesday June 24, 2008 18:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ชี้ข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นการดูแคลนตนเองมากเกินไปโดยไม่มีเหตุผล พร้อมยืนยันการดำเนินการของรัฐบาลที่ผ่านมาเกี่ยวกับปราสาทเขาพระวิหารไม่ได้ทำให้เสียสิทธิ์ในการเรียกร้องดินแดนกลับคืนมา แต่เป็นการผูกไมตรีเพื่อสร้างความสัมพันธ์ของประเทศเพื่อนบ้านที่จะส่งผลดีกลับมายังประเทศไทย
"จะอบรมบ่มนิสัยอย่างไรก็ได้ จะดูถูกดูแคลนอย่างไรก็ได้ วันนี้ผมถูกคนอายุ 40 กว่าดูแคลน แต่ผมทนได้...ที่เขียนมา 9 ข้อ คนฟังทั้งบ้านทั้งเมือง เขาคิดหรือว่าผมเป็นคนแย่ขนาดนั้น มันน่าทุเรศขนาดนั้น" นายสมัคร กล่าว
นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า ข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านมาจากความต้องการที่จะเป็นรัฐบาล เพราะอิจฉาที่รัฐบาลชุดนี้ได้เข้ามาบริหารประเทศแล้วมีโอกาสที่จะทำโครงการขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก โดยพยายามที่จะหาเหตุมากล่าวอ้าง ตั้งแต่เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ, รมต.หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ, ปราสาทเขาพระวิหาร
"คนหน้าตาอย่างนี้อยู่ในการเมืองมาค่อนชีวิต อะไรจะไร้สมรรถภาพขนาดให้เด็กอายุ 40 กว่าพูดจากระแทกแดกดัน หน้ามันโง่ขนาดนี้เลยหรือ สติปัญญาไม่มีหรือครับ" นายสมัคร กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ข้อเท็จจริงเรื่องปราสาทเขาพระวิหารก็คือเราแพ้คดีความ และยืนยันว่าจนถึงขณะนี้ผ่านมา 45 ปีก็ยังสงวนสิทธิ์ในการประท้วงเช่นเดียวกับในอดีต ซึ่งเรื่องนี้มีเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายดูแลอยู่จึงไม่น่าจะเป็นปัญหาตามที่มีข้อกังวล แต่หากฝ่ายค้านจะกล่าวหาว่ามีเรื่องผลประโยชน์มาเกี่ยวข้องก็ต้องพิสูจน์ให้ได้
"เราไม่ขึ้น เขาขึ้นเดี่ยว เขาจะเอาพื้นที่ทับซ้อนไปขึ้นด้วย เราบอกว่าไม่ได้ ทับซ้อนต้องเจรจาความ ถ้าขีดเอาปราสาทไปขึ้นได้ก็เอาไปคนเดียว แล้วถ้า(ยูเนสโก)ไม่รับก็ขึ้นไม่ได้...ปลุกระดมกันทั้งบ้านทั้งเมือง ตอนนี้มันร้อนฉ่าไปหมด คนไทยที่อยู่ที่โน่นนอนตาไม่หลับอีกแล้ว ไม่มีอะไรสูญเสีย" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แนวคิดในการแก้ไขปัญหาของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน แต่การตัดสินใจขึ้นอยู่กับสติปัญญาว่าอะไรควรทำอะไรควรเว้น อย่างเรื่องปัญหาราคาน้ำมันที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลกแต่โชคดีที่ได้รับผลดีจากการที่รัฐบาลชุดก่อนเตรียมการรองรับไว้ หรือราคาสินค้าเกษตรที่รัฐบาลช่วยให้มีราคาสูงขึ้น
"ผมทำงานทุกอย่าง ผมไม่เก่งอย่างหลายคนในพรรคประชาธิปัตย์ แต่ผมก็รู้จักที่จะฟังความข้าราชการประจำว่าจริงๆ ต้องเป็นอย่างไร...เหมือนผมไม่ตีกอล์ฟ แต่นั่งดูได้ เข้าใจ" นายสมัคร กล่าว
นับตั้งแต่ตนเองเข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้รับความร่วมมืออย่างดีจากประเทศเพื่อนบ้านและมิตรประเทศ เช่น สหรัฐ ซึ่งไม่ได้เป็นไปอย่างที่ผู้นำฝ่ายค้านฯ ดูแคลน แต่ต้องยอมรับว่ารัฐบาลชุดนี้เข้ามารับหน้าที่ในช่วงหลังการปฏิวัติทำให้บ้านเมืองนี้มีปัญหา อย่างรัฐธรรมนูญทำไมถึงแก้ไขไม่ได้ และไม่ได้ต้องการที่จะไปช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะในที่สุดก็ต้องขึ้นศาลอยู่ดี
"นักฟุตบอล ถ้าเล่นไม่เก่งก็คงไม่ได้เล่นในสนาม แต่คนที่เก่งกว่านั่งอยู่ข้างนอกคอยตะโกนบอก แต่บางครั้งโค้ชก็ไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เหมือนกับนักการเมืองฝ่ายค้านเฝ้าดูรัฐบาล ไม่รู้หรอกครับในการประชุม ครม.คนคาบมาเล่า คาบมาไม่หมด คนที่ไม่มีความสามารถมีอยู่ รัฐมนตรีไม่ลงตัว แต่อยู่ที่หัวหน้ารัฐบาลจะเป็นคนดูแล" นายสมัคร กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่า ตนเองไม่เคยเนรคุณ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี และไม่จำเป็นต้องไปตอบแทนบุญคุณ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะตนเองเป็นผู้ที่มีบุญคุณต่ออดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่อดีตนายกรัฐมนตรีมีบุญคุณกับตนเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ