บารัค โอบามา ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอาจให้การสนับสนุนงบประมาณด้านการป้องกันประเทศต่อไป แม้วิกฤตการเงินโลกจะส่งผลให้งบประมาณของรัฐลดลงก็ตาม
"เขาเล็งเห็นถึงความสำคัญของการป้องกันประเทศ" แมเรียน เบลคกี ประธานสมาคมอุตสาหกรรมอากาศยาน กล่าว "เราจำเป็นต้องปรับปรุงกองกำลังป้องกันตนเองให้มีความทันสมัย ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ที่เสื่อมโทรมแล้ว และต้องทำการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง"
สหรัฐมีค่าใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศพุ่งขึ้นกว่า 72% แตะ 6.717 แสนล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2551 เมื่อเทียบกับ 3.813 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2543 เมื่อรวมค่าใช้จ่ายจากสงครามในอิรักและอัฟกานิสถานแล้ว โดยค่าใช้จ่ายสำหรับซื้ออาวุธใหม่ในช่วงเวลาดังกล่าวเพิ่มขึ้นกว่า 37% จากเดิมที่ 30%
ทั้งนี้ รัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐจำเป็นต้องเผชิญกับการตัดสินใจเกี่ยวกับโครงการซื้ออาวุธมูลค่ากว่า 1.25 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งประกอบด้วยการซื้อเครื่องบินรบ Lockheed Martin F-22 และเครื่องบินขนส่ง C-17 ของโบอิ้งเพิ่มเติม, การปฏิรูปฝูงบินเติมน้ำมันและเฮลิคอปเตอร์กู้ภัย, การซื้อระบบสื่อสารทางดาวเทียม, การตัดสินใจว่าจะซื้อเรือรบ Navy's DDG-1000 Zumwalt class และซื้อเรือรบ DDG-51 type เพิ่มเติมหรือไม่ เป็นต้น สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน