นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่าสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้มีเสถียรภาพเพียงพอที่รัฐบาลจะเดินหน้าทำงานต่อไปได้ หลังจากที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ได้สลายการชุมนุมที่อยู่รอบบริเวณทำเนียบรัฐบาลไปแล้วเมื่อคืนนี้
หลังจากนี้รัฐบาลจะเดินหน้าทำงานตามนโยบายต่างๆ ที่ประกาศไว้ ทั้งนี้ไม่ได้กังวลปัญหาชุมนุมที่จะมีขึ้นอีกในอนาคต รวมทั้งไม่กังวลต่อกรณีที่ฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะต้องยอมรับกระบวนการตรวจสอบตามระบอบประชาธิปไตย พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ตั้งขึ้นตามข้อกล่าวหาของ นปช.ที่ว่ามีกลุ่มผู้มีอำนาจพิเศษหนุนหลัง แต่รัฐบาลชุดนี้มาจากการเลือกตั้งที่ถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตย
นายสาทิตย์ ยังกล่าวถึงความพร้อมของรัฐบาลเพื่อรับมือกับการชุมนุมที่อาจจะเกิดขึ้นอีกบ่อยครั้งในอนาคต โดยเฉพาะการปิดล้อมสถานที่ราชการของกลุ่มผู้ชุมนุมว่า รัฐบาลไม่จำเป็นต้องเตรียมการใดๆ ไว้ล่วงหน้าเพราะถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่ดูแลด้านความปลอดภัยนั้น เชื่อว่าจากการรับมือการชุมนุมหลายครั้งที่ผ่านมาจะช่วยทำให้มีประสบการณ์และสามารถดูแลความเรียบร้อยได้ดีมากขึ้น
ส่วนการใช้กำลังทหารเข้ามาช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความเรียบร้อยบริเวณทำเนียบรัฐบาลในช่วงการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ครั้งนี้ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีการประเมินสถานการณ์แล้วเห็นว่ามีความจำเป็น และคงไม่สามารถเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบุกยึดทำเนียบรัฐบาลเมื่อปีที่แล้วได้ โดยต้องกลับไปพิจารณาว่าครั้งนั้นทางตำรวจได้ร้องขอไปหรือไม่ หรือ รมว.กลาโหม ได้สั่งการให้ทหารเข้ามาช่วยหรือไม่ ส่วนการจะมองว่าผู้นำกองทัพดำเนินการ 2 มาตรฐานหรือไม่นั้น คงต้องไปถามผู้นำทางทหารเอง รัฐบาลไม่สามารถจะตอบแทนได้
นายสาทิตย์ ยังมองว่า ประเด็นที่กลุ่ม นปช.ใช้โจมตีรัฐบาลในระหว่างการชุมนุมนั้น ค่อนข้างจะเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง เช่น การเรียกร้องให้ปลดนายกษิต ภิรมย์ ออกจาก รมว.ต่างประเทศ เพราะเห็นว่าเป็น 1 ใน 21 แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ตำรวจจะออกหมายจับ
รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จะเดินทางไปต่างประเทศเพื่อสืบหาและติดตามข้อมูลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อันเนื่องจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ล่าช้าว่า รัฐบาลได้มอบหมายเรื่องนี้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ดำเนินการแล้ว
ส่วนการดำเนินการของ ส.ส.นั้น เชื่อว่าคงเป็นเพราะมีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์บ้านเมือง และอยากเห็นบ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ แต่สิ่งสำคัญคือจะต้องไม่เข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม