นายกรัฐมนตรี ระบุไม่ขัดข้องที่คณะกรรมการอิสระเพื่อรับฟังความคิดเห็นและเสนอแนะการพัฒนาประชาธิปไตยและการเมืองการปกครองที่สภาสถาบันพระปกเกล้าตั้งขึ้นเมื่อวานนี้(9 มี.ค.)จะกำหนดแนวทางและกรอบเวลาในการปฏิรูปการเมือง แต่จะต้องหารือเรื่องดังกล่าวกับทางฝ่ายค้านก่อน ซึ่งหากไม่เห็นด้วยก็สามารถปรับปรุงแก้ไขได้
"ผมไม่มีข้อขัดข้องในแง่ของการตั้งกรอบเวลา ตั้งตัวบุคคลหรือตั้งโจทย์ ผมรับได้ แต่ต้องปรึกษากับทางฝ่ายค้านด้วย"นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าว
ทั้งนี้ สถาบันพระปกเกล้ามีมติรับเป็นแกนนำในการปฏิรูปการเมือง โดยให้นายสุดจิต บุญบงการ ประธานสภาพัฒนาการเมือง เป็นประธานคณะกรรมการฯ และนายวุฒิสาร ตันไชย รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า เป็นเลขานุการคณะกรรมการฯ คณะกรรมการชุดนี้จะประกอบด้วยตัวแทนจากทุกภาคส่วนไม่เกิน 50 คน โดยใช้เวลาดำเนินการทั้งสิ้น 19 เดือน
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังปฏิเสธกรณีที่มีผู้วิพากษ์วิจารณ์ว่าแนวคิดในการปฏิรูปการเมืองของรัฐบาลเป็นการซื้อเวลาหรือต่ออายุในการทำงานให้กับรัฐบาล
และ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายที่จะดำเนินกระบวนการสมานฉันท์ตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศ รวมไปถึงไม่มีนโยบายออกกฎหมายนิรโทษกรรมนักการเมือง โดยสิ่งที่รัฐบาลต้องการทำในขณะนี้ คือให้เป็นไปตามแนวคิดของกระบวนการปฏิรูปการเมืองว่าสมควรที่จะมีการแก้ไขปรับปรุงกฏหมายในส่วนใดบ้าง
นอกจากนี้ ยังไม่ให้ความสำคัญกับคำพูดของอดีตนายกรัฐมนตรีที่ระบุว่าจะเดินทางกลับไทยในช่วงปลายปีนี้ เพราะคำพูดของอดีตนายกรัฐมนตรีมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา