นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ระบุว่า การชุมนุมใหญ่ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)หลังจากที่รัฐบาลเลื่อนอภิปรายให้เร็วขึ้นจากวันที่ 26-27 มี.ค.มาเป็นวันที่ 19-20 มี.ค.นั้น กลุ่ม นปช.จะปรับการชุมนุมใหญ่จากเดิมที่นัดไว้ในวันที่ 29 มี.ค.มาเป็นวันที่ 26 มี.ค.ซึ่งคาดว่าการชุมนุมในครั้งนี้จะมีคนเข้าร่วมชุมนุมมากกว่าครั้งก่อน
"เบื้องต้นนัดกันวันที่ 26 มี.ค. ซึ่งจะชุมนุมยืดเยื้ออยู่ยาว จะปิดล้อมแต่ไม่เข้าไปข้างใน(ทำเนียบรัฐบาล)" นายจตุพร กล่าว
สำหรับกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาชุมนุมหน้ารัฐสภาวันนี้ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม นปช.และคนของรายการความจริงวันนี้ เพียงแต่ต้องยอมรับว่าเรื่องสิทธิและเสรีภาพมีอยู่ทั่วทุกหัวระแหงจะไปปิดกั้นไม่ได้ ซึ่งได้เคยเตือนไปแล้วว่าให้หลีกเลี่ยงการใช้ถ้อยคำรุนแรงและประกาศชัดเจนว่าช่วงที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะไม่นัดชุมนุม แต่จะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของรัฐสภา
"ถ้านัดชุมนุม ป่านนี้ก็เต็มถนนรถวิ่งไม่ได้แล้ว ผมได้ประกาศชัดเจนแล้วว่าจะไม่มาชุมนุมช่วงที่มีการอภิปราย" นายจตุพร กล่าว
ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น นายจตุพร ในฐานะ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ยืนยันว่าจะนำเสนอข้อเท็จจริงตามเอกสารเป็นส่วนใหญ่ จะใช้การพูดตามหลักฐานที่มีอยู่ ส่วนความเห็นและความรู้สึกจะพยายามให้น้อยที่สุด โดยจะชี้ให้เห็นข้อเท็จจริง ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถชี้ให้เห็นได้ว่ารัฐบาลมีความผิดพลาดในการบริหารงานจนไม่น่าไว้วางใจ
"รัฐบาลอาจจะชนะโหวตในสภาฯ แต่เชื่อว่าหลังจากวันนี้คงไม่กล้าเอาหน้าออกไปเดินตามถนน เพราะมีเอกสารชัดเจน อย่างกรณีที่ยอมเสียดินแดนให้กับเขมร เพื่อแลกกับการเชิญมาร่วมประชุมอาเซียนซัมมิท ซึ่งมีเอกสารชัดเจนของกองกำลังสุรนารี...บ่ายๆ ก็คงจะรู้ดำรู้แดงแน่ ถ้าเปิดเอกสารคนคงช็อคกันทั้งเมือง" ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ระบุ
นายจตุพร กล่าวว่า จะพยายามหลีกเลี่ยงการพาดพิงถึงบุคคลภายนอก และคงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะนำเรื่องใหม่มาอภิปราย เพราะถือเป็นเรื่องที่ยังไม่ได้เกิดขึ้น แต่เรื่องเก่าที่หยิบยกขึ้นมาพูดจะเป็นเรื่องที่มีผลต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน
"ประชาธิปัตย์ก็เป็นต้นตำรับเรื่องนี้ เพราะเคยอภิปรายคุณบรรหาร(ศิลปอาชา) และขุดเรื่องเมื่อ 70 ปีก่อน จะเอาเรื่องใหม่ที่ยังไม่เกิด คงเป็นไปไม่ได้" นายจตุพร กล่าว
ส่วนกรณีการเกิดเหตุลอบวางระเบิดหลายจุดที่ จ.สุราษฎร์ธานีนั้น เห็นว่าเป็นเรื่องที่ผิดสังเกต และอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งสอบสวนข้อเท็จจริงให้ชัดเจน
"ใครจะกล้าไปทำ หน้าตาแบบคุณสุเทพ(เทือกสุบรรณ) ใครจะบ้าไปแหย่รังแตน" นายจตุพร ระบุ