นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ฤกษ์เปิดเวทีการอภิปรายทั่วไปร่วมกันของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเช้าวันนี้ โดยหวังใช้ช่องทางรัฐสภาในการคลี่คลายสถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมือง เพื่อเป็นทางออกให้กับบ้านเมือง และหวังจะเห็นทุกฝ่ายช่วยกันรักษาสถาบันเบื้องสูงที่อยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมือง
"ความคิดเห็นที่แตกต่าง(กันใน)วันนี้ เราใช้เวทีรัฐสภาในการแลกเปลี่ยน(ความคิดเห็น) ให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้ ถ้าเราทำเช่นนั้นได้ไม่มีฝ่ายใดชนะ นอกจากพี่น้องประชาชนและระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข" นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อที่ประชุมรัฐสภา
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีความชัดเจนเกี่ยวกับความพยายามของคนบางกลุ่มที่จะอาศัยเงื่อนไขการสลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)ไปปลุกระดมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองขึ้นอีก ตลอดจนการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศเพื่อขยายวงความขัดแย้งให้มีมากขึ้น
"คนที่มีจิตใจเป็นประชาธิปไตยนั้นย่อมไม่คิดอ่านที่จะทำเช่นนั้น เพราะไม่เป็นผลดีกับฝ่ายใด และจะยิ่งจะมีความสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียเลือดเนื้อของพี่น้องประชาชนคนไทยด้วยกัน และที่สำคัญสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียประชาธิปไตย"นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้มีบุคคลที่ไปให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศอย่างไม่เหมาะสม โดยจาบจ้างถึงสถาบันและองค์พระมหากษัตริย์ และแกนนำ นปช.ยังให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศว่า หลังจากนี้การชุมนุมจะเปลี่ยนไป โดยจะมีการใช้อาวุธและความรุนแรง
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การดำเนินสลายการชุมนุมนั้นเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่ได้ต้องการที่จะทำร้ายประชาชน แต่ดำเนินการกับผู้กระทำผิดตามกฎหมาย และผู้เสียชีวิต 2 รายที่ทางกลุ่มเสื้อแดงนำมากล่าวอ้างนั้น ไม่ได้เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ ส่วนการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้นหน่วยงานด้านความมั่นคงได้พิจารณาร่วมกันแล้วว่ามีความ จำเป็น
นายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงเหตุผลที่ยังไม่ประกาศยกเลิก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินว่า เนื่องจากสถานการณ์ความวุ่นวายยังไม่สิ้นสุดตามที่เข้าใจ เพราะยังมีแกนนำผู้ชุมนุมออกมาให้สัมภาษณ์ว่ายังคงมีความเคลื่อนไหวเพื่อต่อสู้กับรัฐบาลต่อไปโดยอาจมีการใช้อาวุธด้วย
"ขอให้เจ้าหน้าที่ไปพูดคุยกับแกนนำให้อยู่ในความสงบ ถ้าเคลื่อนไหวตามรัฐธรรมนูญก็คงจะไม่เป็นปัญหา" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียังยืนยันการดำเนินงานของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมานับตั้งแต่เข้ามาบริหารประเทศไม่ได้ใช้ 2 มาตรฐานตามที่มีการกล่าวหา