อิจิโร โอซาว่า หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยญี่ปุ่น หรือ ดีพีเจ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา แถลงข่าวลาออกจากตำแหน่ง หลังจากที่ถูกกดดันอย่างหนัก ทั้งจากสมาชิกพรรคดีพีเจเองและจากสาธารณชน นับตั้งแต่เกิดคดีอื้อฉาวที่ผู้ช่วยส่วนตัวของเขารับเงินบริจาคผิดกฎหมายเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา จนส่งผลกระทบต่อโอกาสของพรรคดีพีเจในการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรที่จะมีขึ้นในปีนี้
ในระหว่างการแถลงข่าวซึ่งได้รับการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ไปทั่วประเทศนั้น นายโอซาว่าได้ชี้แจงเหตุผลถึงการลาออกว่าเพื่อความเป็นเอกภาพและชัยชนะของพรรคในการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งจะนำไปสู่การพลิกโฉมหน้าของรัฐบาลญี่ปุ่นที่ครองอำนาจโดยพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ แอลดีพีมานานถึง 50 ปี
อย่างไรก็ตาม นายโอซาว่ายังคงยืนยันว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิดเกี่ยวกับการรับเงินบริจาคดังกล่าว อีกทั้งยังได้แสดงความพร้อมที่จะลงแข่งขันในการเลือกตั้งทั่วไปด้วย
โดยก่อนหน้าที่ข่าวอื้อฉาวดังกล่าวจะถูกเปิดโปงนั้น พรรคดีพีเจมีความเชื่อมั่นว่า จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง เมื่อพิจารณาจากโพลล์สำรวจความคิดเห็นประชาชนหลายสำนักที่ชี้ว่า ชาวญี่ปุ่นสนับสนุนให้นายโอซาว่าดำรงตำแหน่งนายกฯคนต่อไปเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่พรรค หรือ แอลดีพี ซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาล กำลังเผชิญกับคะแนนนิยมที่ดิ่งลงอย่างหนัก เนื่องจากประชาชนไม่พอใจผลงานการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
แต่ภาพพจน์ของนายโอซาว่าและพรรคดีพีเจถูกสั่นคลอนอย่างหนักในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยโพลล์ของนสพ.โยมิอุริเผยให้เห็นว่า 71% ของผู้ตอบแบบสำรวจทางโทรศัพท์กล่าวว่า พวกเขาไม่เห็นด้วยที่นายโอซาว่ายังคงดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคต่อไปหลังเกิดเรื่องฉาว
ด้านนักวิเคราะห์เชื่อว่า การประกาศลาออกจากตำแหน่งของนายโอซาว่าไม่น่าจะช่วยให้คะแนนนิยมของพรรคดีพีเจกระเตื้องขึ้นมาได้ และเชื่อว่าความเคลื่อนไหวนี้น่าจะส่งผลให้นายกรัฐมนตรีทาโร่ อาโสะ ประกาศยุบสภาและจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าก่อนที่สมาชิกพรรคดีพีเจจะสามารถผนึกกำลังภายใต้การนำของหัวหน้าพรรคคนใหม่ได้
สำหรับผู้ที่จะมานั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคดีพีเจแทนนายโอซาว่านั้น คาดว่าอาจเป็นอดีตหัวหน้าพรรคอย่างนาย คัตสึยะ โอกาดะ และนายนาโอโตะ คัน
ทั้งนี้ การเลือกตั่งทั่วไปจะมีขึ้นในฤดูใบไม้ร่วงหรือช่วงเดือนต.ค.นี้ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญของญี่ปุ่น ซึ่งผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดที่จัดทำโดยนสพ.ยูมิอูริ ปรากฏว่า คะแนนสนับสนุนคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นภายใต้การนำของนายทาโร่ อาโสะ นายกรัฐมนตรี เพิ่มขึ้นแตะ 28.7% จากระดับ 24.3% เมื่อเดือนเม.ย. สำนักข่าวเกียวโดรายงาน