เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐคนหนึ่งถูกจับฐานนำความลับของกระทรวงไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลจีนที่ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ไต้หวัน
เจมส์ ดับเบิลยู ฟอนเดรน จูเนียร์ วัย 62 ปี ถูกจับฐานให้เอกสารลับกับ ไท่ เฉิน กัว เซลล์แมนขายเฟอร์นิเจอร์ในรัฐนิวออร์ลีนส์ ซึ่งเป็นสายลับของจีนแต่ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ไต้หวัน
พนักงานอัยการเผยว่า ในช่วงปี 2547-2551 ฟอนเดรนได้มอบข้อมูลลับให้กับนายกัวผ่านเอกสารที่ขายให้กับนายกัวในราคา 350-800 ดอลลาร์ต่อชิ้น โดยเอกสาร 8 ชิ้นมีเนื้อหาที่เป็นข้อมูลลับเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางทหารระหว่างสหรัฐ-ไต้หวัน
เมื่อวานนี้ผู้พิพากษายอมให้ฟอนเทรนเป็นอิสระระหว่างการรอดำเนินคดี แต่ต้องมีการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกติดตามอย่างใกล้ชิด ในขณะที่ อาซา ฮัชชินสัน ทนายของเขา ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับคดี และกล่าวเพียงว่าฟอนเดรน "ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเปิดเผยข้อมูลให้กับเจ้าหน้าที่ของจีน"
ทางด้าน โรเบิร์ท เอ็ม. กิบบ์ส เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ กล่าวว่า เห็นได้ชัดว่าฟอนเดรนไม่รู้ว่านายกัวเป็นเจ้าหน้าที่ของจีน และฟอนเดรนเชื่อว่าข้อมูลดังกล่าวถูกส่งต่อไปยังไต้หวัน แต่การกระทำดังกล่าวก็ผิดกฎหมายอยู่ดี และหากถูกตัดสินว่าผิดจริง ฟอนเดรนอาจต้องโทษจำคุกนานสูงสุด 5 ปี
เดน่า โบเอนเต้ รักษาการอัยการสูงสุด กล่าวว่า "การเปิดเผยข้อมูลลับให้เจ้าหน้าที่จากจีนทราบถือเป็นภัยคุกคามอย่างใหญ่หลวงต่อความมั่นคงของประเทศ รัฐบาลสหรัฐสู้อุตส่าห์มอบความไว้ใจให้กับผู้ที่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลลับ ดังนั้นเราต้องดำเนินคดีกับผู้ที่ทำลายความไว้วางใจดังกล่าว"
เมื่อปีที่แล้ว เกร้ก เบอร์เกอร์เซ่น อดีตลูกจ้างในกระทรวงกลาโหม ก็ลักลอบนำข้อมูลลับไปให้กับนายกัวเพื่อแลกกับเงินสดอย่างน้อย 7,000 ดอลลาร์และของกำนัลต่างๆ ส่งผลให้ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลาเกือบ 5 ปี
ทั้งนี้ คดีนายกัวเป็นเพียงหนึ่งในหลายสิบคดีที่เกี่ยวกับการจารกรรมข้ามชาติจากจีนที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ทางการสหรัฐต้องประกาศเตือนว่าตอนนี้จีนได้เพิ่มความพยายามในการจารกรรมมากขึ้นกว่าในอดีต สำนักข่าวเอพีรายงาน