นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) ร่วมแสดงความยินดีกับแนวทางของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่จะจัดตั้งพรรคการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งดีกว่าเล่นการเมืองข้างถนนหรือเป็นอีแอบทางการเมือง
พร้อมกับตั้งข้อสังเกตการตั้งพรรคการเมืองไว้ 6 ข้อ คือ 1.พรรคการเมืองของกลุ่มพันธมิตรจะกลายเป็นสาขาของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ไปร่วมกิจกรรมในการตั้งพรรคการเมืองใหม่นั้นจะขัดต่อกฎหมายพรรคการเมืองหรือไม่
2. แกนนำพันธมิตรฯ หากลงเล่นการเมืองจะถือเป็นการตระบัดสัตย์หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้เคยรับปากไว้ว่าจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง หรือไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรี, 3. แกนนำพันธมิตรฯ ยังมีหลายคดีอาญาติดตัว ทั้งคดีบุกสถานีโทรทัศน์ NBT, คดีบุกยึดทำเนียบรัฐบาล, คดีการยึดสนามบินดอนเมืองและยึดสนามบินสุวรรณภูมิ
4.เมื่อกลุ่มพันธมิตรฯ ตั้งพรรคการเมืองแล้ว เงินที่รับบริจาคของประชาชนที่ให้สถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีเป็นเงินหลาย 100 ล้านบาทนั้น จะเสียภาษีให้รัฐบาลหรือไม่ 5.การครอบครองสื่อ เช่น เอเอสทีวี-หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ที่เป็นสื่อและกระบอกเสียงให้กลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อตั้งพรรคการเมืองแล้วจะถือว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 48 หรือไม่
และ 6.เมื่อตั้งพรรคการเมืองแล้ว แกนนำพันธมิตรฯ จะยังใช้วิธีการยึดสถานที่ราชการ ยึดสถานีโทรทัศน์ และยึดสนามบิน เพื่อแลกตำแหน่งอีกหรือไม่
ทั้งนี้ นายพร้อมพงศ์ กลับไม่มองว่าพรรคการเมืองใหม่ของกลุ่มพันธมิตรฯ จะมาเป็นคู่แข่งกับพรรคเพื่อไทย แต่น่าจะเป็นคู่แข่งของพรรคประชาธิปัตย์มากกว่า ดังนั้นต้องจับตาดูว่าในอนาคตจะมีการฮั้วกันหรือไม่