"กอร์ปศักดิ์"เตือนขั้นตอนประมูลรถเมล์ NGV ต้องโปร่งใสไร้ทุจริต

ข่าวการเมือง Monday June 8, 2009 14:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ระบุกรณีที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)มอบหมายให้คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์)ไปศึกษาข้อดี-ข้อเสียระหว่างการเช่ากับการซื้อของโครงการรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันว่า ประเด็นที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกันนั้นเป็นเรื่องของรายละเอียดการกำหนดราคากลางเท่านั้น ที่สำคัญเป็นเพียงราคากลางที่ยังไม่ได้มีการลงทุนเกิดขึ้น เพราะเมื่อมีการตัดสินและเปิดประมูลจริง ๆ แล้วเอกชนที่เสนอโครงการเข้ามาอาจจะให้ราคาที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าก็ได้

แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่าคือขั้นตอนของการประมูลที่จะดูแลอย่างไรให้เกิดความโปร่งใสและไม่มีการทุจริตเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่ทำให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาลแน่นอน เพราะทุกฝ่ายโดยเฉพาะ รมว.คมนาคม เองได้ยืนยันในที่ประชุม ครม.แล้วว่าหากบอร์ดสภาพัฒน์มีความเห็นอย่างไรก็ให้ดำเนินการเป็นไปตามนั้น

รองนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลว่า รัฐบาลรับฟังการวิพากษ์วิจารณ์ของทุกคนเพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น แต่อย่าลืมว่าการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเท่ากับเป็นรัฐบาลเหมือนกัน การออกมาวิพาษก์วิจารณ์รัฐบาลก็เท่ากับวิจารณ์ตัวเอง

และบางครั้งก็ออกมาวิจารณ์เป็นเพราะไม่รู้ว่ารัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่ หรือไม่ได้อยู่ในที่ประชุมด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคอนแทรคฟาร์มมิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้วในเรื่องของกุ้งและยังอยู่ระหว่างดำเนินการอีก ขณะที่เรื่องของเอทานอลก็กำลังทำอยู่เช่นกัน แต่เนื่องจากปริมาณมันสำปะหลังออกมาเยอะมากทำให้ดำเนินการไม่ทัน

สำหรับการวิจารณ์เกี่ยวกับการจัดสรรเงินงบประมาณไม่ทั่วถึงและเน้นแต่ของพรรคตัวเองนั้น นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้จัดสรรงบประมาณให้เฉพาะของพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น แต่คำนึงถึงโครงการที่พื้นฟูเศรษฐกิจ การสร้างงาน การก่อสร้าง และต้องยอมรับว่าเมื่อเป็นงานก่อสร้างโดยเฉพาะการสร้างทางก็จะตกไปอยู่ที่กระทรวงคมนาคมเป็นหลัก

ส่วนกรณีที่พรรคภูมิใจไทยออกนโยบายของพรรคโดยระบุว่าสามารถใช้เงินจากกระทรวงมหาดไทยได้เลยโดยไม่ต้องรอเงินงบประมาณนั้น นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า บางเรื่องสามารถใช้งบท้องถิ่นได้เลย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีหากมาช่วยกัน และอย่าคิดว่าจะมีการทุจริตเกิดขึ้นเพราะหากดำเนินการเช่นนั้นก็จะเสียชื่อ

ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลนั้นทำตามมติ ครม.ที่เห็นชอบร่วมกันทุกพรรคอยู่แล้ว และที่ผ่านมาปัญหาการทำงานไม่ได้สะดุดจากผู้บริหารระดับสูงแต่เพียงอย่างเดียว แต่บางครั้งงานที่สะดุดเป็นเพราะระบบข้าราชการที่ทำให้สะดุดเช่นกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ