สส.กทม.เพื่อไทยยื่นจม.ท้วงรถเมล์ 4 พันคัน แนะสภาพัฒน์ทบทวนทั้งโครงการ

ข่าวการเมือง Tuesday June 9, 2009 12:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม พรรคเพื่อไทยได้นำส.ส.กทม.บางส่วนมายื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีขอให้พิจารณาโครงการรถเมล์ NGV 4 พันคัน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก พร้อมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียืนยันความรับผิดชอบหากโครงการนี้ไม่ประสบความสำเร็จ

ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย มีข้อห่วงใยในประเด็นสำคัญ 2 ประการ คือ มองว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถแก้ปัญหาขาดทุนสะสมของ ขสมก.และสามารถเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนได้จริงหรือไม่ อีกทั้งโครงการดังกล่าวมีความโปร่งใส ปราศจากการทุจริตคอรัปชั่นจริงหรือไม่

นายวิชาญ กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรีสั่งให้บอร์ดสภาพัฒน์ฯ ไปศึกษาว่าจะเช่าหรือซื้อโครงการดังกล่าวภายใน 1 เดือนนั้น โดยความเป็นจริงควรจะให้บอร์ดสภาพัฒน์ฯ ศึกษาโดยภาพรวมว่าจะควรจะจัดทำโครงการดังกล่าวหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้พรรคภูมิใจไทยพยายามกดดดันและเรียกร้องทวงบุญคุณคน กทม.ว่า โครงการดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาด้านการจราจร ซึ่งมองว่า เป็นการมองแต่เพียงด้านเดียวเท่านั้น ควรต้องมองด้วยว่าหน่วยงานต่างๆ เช่น รถร่วมบริหารจะได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง

รวมถึง ขณะนี้พรรคภูมิใจไทยได้ทำป้ายชี้แจงรายละเอียดของโครงการรถเมล์ ซึ่งน่าจะเป็นการกดดันการทำงานของบอร์ดสภาพัฒน์ฯ

"ผมเกรงว่าท่านนายกฯ จะตกเป็นเหยื่อการทำงานแบบลวกๆ โครงการนี้จะมีผลประโยชน์หรือไม่ ผมไม่ขอชี้ชัด แต่ขอให้สื่อและองค์กรต่างๆ ช่วยตรวจสอบ ในนามของ ส.ส.กทม.จึงมายื่นจดหมายเปิดผนึกให้ท่านนายกฯ ไตร่ตรองให้รอบคอบ หากคิดว่าทำถูกต้องแล้วก็ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต"นายวิชาญ กล่าว

พร้อมกับยืนยันว่าทางพรรคเพื่อไทยไม่ได้มีเจตนาขัดขวางการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ เพียงแต่ในฐานะที่เป็น ส.ส.จึงต้องการให้มีการตรวจสอบโครงการดังกล่าวให้มีความโปร่งใส ปราศจากการทุจริตและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งหากผลการศึกษาของบอร์ดสภาพัฒน์ฯ ออกมาในทางใดทางหนึ่งก็ตาม แนวทางต่อไปของพรรคอาจจะมีการจัดทำประชาพิจารณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเดินรถ ทั้งในส่วนของประชาชน เอกชน หน่วยงานต่างๆ และนักวิชาการ ต่อไปเพื่อให้เกิดประโยชน์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ