นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ระบุว่า การพิจารณาของคณะอนุกรรมการสอบสวนฯ ต่อกรณีการเข้าข่ายขาดคุณสมบัติของ 61 ส.ส.จากการเข้าไปถือหุ้นในบริษัทที่รับสัมปทานของรัฐนั้น กกต.ได้มีคำสั่งยกคำร้องไป 17 คน เนื่องจากมีสถานะเป็นอดีตส.ส.จากการลาออกและถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไปแล้ว ทำให้เหลือ ส.ส.ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบอีก 44 คน
เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า ส.ส. 44 คน ที่จะต้องตรวจสอบนี้ กกต.ได้มีมติขยายเวลาให้อนุกรรมการฯ ไปตรวจสอบอีก 15 วัน เพื่อสอบสวนหาข้อมูลเพิ่มเติมจากการรายงานบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ถูกร้องที่ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และตรวจสอบวัตถุประสงค์การก่อตั้งของบริษัทที่ผู้ถูกร้องเข้าไปถือหุ้นจากกรมทะเบียนการค้ากระทรวงพาณิชย์
รวมทั้งขอข้อมูลจากบริษัทที่ถูกระบุว่าผู้ถูกร้องเข้าไปถือหุ้นอีก 72 บริษัทที่อนุกรรมการฯ ยังไม่ได้รับคำตอบ เพราะอนุกรรมการฯ ได้มีหนังสือสอบถามข้อมูลไปยังบริษัทที่ถูกระบุว่าผู้ถูกร้องถือหุ้นอยู่ 306 บริษัท แต่ล่าสุดได้รับหนังสือชี้แจงกลับมาเพียง 234 บริษัท
สำหรับ ส.ส.ทั้ง 44 คนที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ แยกเป็น ส.ส. 38 คน และมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี 6 คน ดังนี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย 23 คน, ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน 8 คน, ส.ส.พรรคประชาราช 3 คน, ส.ส.พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา 1 คน, ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา 1 คน, ส.ส.พรรคภูมิใจไทย 1 คน และส.ส.พรรคกิจสังคม 1 คน
ขณะที่รัฐมนตรีทั้ง 6 คนในรัฐบาล ประกอบด้วย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี, นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน, นายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.แรงงาน, นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย, นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข และนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคม
อนึ่ง รายชื่อส.ส.และรัฐมนตรีทั้ง 44 คนข้างต้น เป็นผลมาจากการยื่นคำร้องโดยนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ส่วนกรณีคำร้องของนายศุภชัย ใจสมุทร ในสมัยที่เป็นรองโฆษกพรรคพลังประชาชน ที่ได้ยื่นรายชื่อ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 28 คน มาให้ กกต.ตรวจสอบในกรณีเดียวกันนี้ ขณะนี้อนุกรรมการไต่สวนกำลังอยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติมและเสนอรายงานสรุปสำนวนเพื่อเสนอต่อที่ประชุม กกต.ได้ในเร็วๆ นี้