นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธให้ความเห็นกรณีที่มีกระแสข่าวว่านายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ จะลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จากปัญหาความขัดแย้งในการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ โดยระบุว่า ให้สอบถามเรื่องดังกล่าว จากนายนิพนธ์เอง ส่วนการเข้าพบของนายนิพนธ์วานนี้ เป็นการหารือในเรื่องทั่วไป ไม่มีเรื่องพิเศษ "ต้องถามคุณนิพนธ์เองว่าจะไขก๊อกหรือไม่ ผมตอบแทนไม่ได้...ก็มาคุยเรื่องทั่วๆไป เขาอาจมาหากาแฟทาน กาแฟผมอร่อย" นายสุเทพ กล่าว
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มีการแลกเปลี่ยนตำแหน่งระหว่าง ผบ.ตร.กับการแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ที่อาจถูกมองว่ามีปัญหาระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)กับพรรคภูมิใจไทย จนอาจกลายเป็นปัญหาน้ำผึ้งหยดเดียว ส่วนจะนำไปสู่ปัญหาความบาดหมางของคนในพรรคหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจและการควบคุมตนเองของแต่ละบุคคล
"ทั้งหมดต้องอยู่ที่คน คนต้องหัดรู้จักประมาณตัว ควบคุมตัวเอง ผมคิดว่าเรื่องลำบากของคน คือการควบคุมตัวเอง ถ้าทุกคนทำได้ ก็ไม่เป็นปัญหา ถ้าคิดไม่ได้ ก็เป็นปัญหา เป็นเรื่องธรรมดา" รองนายกรัฐมนตรี กล่าวทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่มีปัญหาเรื่องการแต่งตั้งนายตำรวจระดับนายพลที่ยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้ขออนุมัติจากคณะกรรมการตำรวจ(ก.ตร.)แล้ว โดยเลื่อนการพิจารณาออกไป แต่เชื่อว่าการจัดทำบัญชีแต่งตั้งนายตำรวจระดับนายพลจะแล้วเสร็จภายใน ก.ย.52
นายสุเทพ กล่าวว่า สำหรับปัญหาของคนในพรรคนั้น ตนเองสามารถให้ความคิดเห็น หรือข้อเสนอแนะได้ แต่คงไม่สามารถทำให้ถูกใจคนในพรรคได้ทั้งหมด และไม่สามารถคิดแทนนายกรัฐมนตรีได้ เพราะตนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา
ส่วนกระแสข่าวการยุบสภา เห็นว่าจะต้องมีการเตรียมความพร้อม หากจะมีการเปลี่ยนแปลงตามวิถีทางรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องทำใจเตรียมรับไว้
"เราต้องทำตัวให้พร้อมไว้ ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงตามวิถีทางรัฐธรรมนูญ เราก็ทำใจ เพราะเราอยู่ในระบบนี้ แต่ถ้าเป็นการเปลี่ยนแปลงนอกวิถีทางรัฐธรรมนูญ ทำใจไม่ได้ รับไม่ได้ ก็ต้องสู้กันไป" นายสุเทพ กล่าวด้านปัญหาความขัดแย้งทางสังคมที่ยังเกิดขึ้นนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า พร้อมสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้น และพร้อมหารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อให้กลุ่มคนเสื้อแดงยุติชุมนุม ซึ่งที่ผ่านมาตั้งแต่เป็นรัฐบาลได้มีความพยายามที่จะหารือกับอดีตนายกรัฐมนตรีมาโดยตลอด แต่ไม่ได้มีการตอบรับ แต่ตนเองพร้อมเปิดใจพูดคุยได้ตลอดเวลา เพื่อหาแนวทางสร้างสมานฉันท์ในบ้านเมือง