อดีต คตส.โต้โฆษก อสส.วิพากษ์คดีกล้ายางไม่เหมาะสม ยันทำทุกคดีตามหลักการ

ข่าวการเมือง Wednesday September 23, 2009 14:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสัก กอแสงเรือง อดีตโฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) กล่าวว่า การทำงานของ คตส.ในช่วงที่ผ่านมาได้ดำเนินการตามความเหมาะสมและเป็นไปตามข้อเท็จจริง โดยยืนยันว่าไม่ได้รับใบสั่งจากใครหรือทำตามกระแสสังคมตามที่มีข่าว

ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา อดีต คตส.ได้แก่ นายนาม ยิ้มแย้ม, นายสัก กอแสงเรือง, นายแก้วสรร อติโพธิ, นายวิโรจน์ เลาหะพันธ์, คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา และนายกล้านรงค์ จันทิก ได้ร่วมประชุมหารือกันหลังจากวานนี้(22 ก.ย.) โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดได้ออกวิพากษ์วิจารณ์การทำสำนวนคดีทุจริตการจัดซื้อกล้ายางพารา 90 ล้านต้นของ คตส.ว่ามีความหละหลวม ไม่รัดกุมตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดทักท้วงไป ส่งผลให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 44 คนนั้น

อดีตโฆษก คตส.ยังกล่าวอีกว่า ขอโต้แย้งทุกข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่า คตส.ได้ทำสำนวนคดีตามอำนาจหน้าที่ของกฎหมาย และอยู่บนพื้นฐานของพยานหลักฐาน ปราศจากอคติ และสั่งฟ้องเมื่อเห็นว่าสำนวนมีความสมบูรณ์ ไม่ใช่ไม่ยอมฟังจุดบกพร่องที่อัยการสูงสุดชี้แนะ หรือไม่แจ้งข้อกล่าวหาให้ครบถ้วนตามที่มีการระบุ

การออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องดังกล่าวของโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด(อสส.)ถือว่าไม่เหมาะสม เนื่องจากการทำงานของ คตส.จบลงไปแล้ว และการประชุมหารือกันในวันนี้ก็ไม่ได้ต้องการที่จะไปฟ้องร้องใคร แต่ต้องการชี้แจงให้สังคมได้รับทราบว่าการทำงานของ คตส.ในช่วงที่ผ่านมานั้นถูกต้องตามหลักการ และไม่เกี่ยวกับคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ ในคดีทุจริตการจัดซื้อกล้ายางพารา 90 ล้านต้นที่ตัดสินยกฟ้อง เพราะเป็นเรื่องที่ศาลฎีกาฯ มีคำวินิจฉัยตัดสินไปแล้ว และทาง คตส.ก็เคารพในตัดสินดังกล่าว

ด้านนายแก้วสรร อติโพธิ อดีตเลขานุการ คตส. กล่าวว่า การที่ตนเองไปเป็นพยานให้ฝ่ายจำเลยในคดีดังกล่าวเป็นไปตามหน้าที่ ซึ่งในอนาคตจะมี คตส.เสียงข้างน้อยในแต่ละสำนวนหลายคนต้องเป็นพยานให้ฝ่ายจำเลย แต่ในภาพรวมคดีทุจริตการจัดซื้อกล้ายางพารา 90 ล้านต้น คตส.มีมติให้สั่งฟ้องอย่างเป็นเอกฉันท์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ