นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ยอมรับว่า ขณะนี้พรรค ปชป.ยังไม่พร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่ เนื่องจากติดภารกิจสำคัญในการผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ใช่เพราะคาดหมายว่าจะแพ้พรรคเพื่อไทย(พท.)
"ประเด็นสำคัญคือเรื่องรัฐธรรมนูญต้องทำให้แล้วเสร็จ ให้กระบวนการทางการเมืองเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ถ้าบรรยากาศเป็นอย่างนี้ไปหาเสียงก็ไปตีกันกลางสนามเลือกตั้ง เดียวคนโน้นบุกล้มเวที เดียวคนนี้ตะลุมบอนกัน ไม่ใช่บรรยากาศประชาธิปไตย เราต้องใช้เวลาปรับคลื่นความคิดกัน
...ถ้าประชาชนพ้นภาวะความเดือนร้อนเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจและมีความมั่นใจในแนวทางประชาธิปไตยที่ยอมรับกัน ถึงวันนั้นไปเลือกตั้งได้ไม่เป็นไร" นายสุเทพ กล่าวถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทย(ภท.)ออกมาระบุว่ามีความพร้อมที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่แล้ว
สำหรับแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญยังเป็นไปตามข้อตกลงที่มีต่อพรรคร่วมรัฐบาล ไม่เคยคิดที่จะไม่ทำตามข้อตกลงที่มีต่อกันไว้ก่อนหน้านี้ตามที่เป็นข่าว ขณะที่รัฐบาลยังคงเดินหน้าทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ของบ้านเมืองอย่างเต็มที่ ไม่ใช่มุ่งแก้ไขปัญหาทางการเมืองเพียงอย่างเดียว
"สิ่งที่ผมเคยพูดจาผมก็จะผลักดันไปในแนวทางอย่างนั้น ไม่นิยมการหักหลัง" นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจำเป็นต้องฟังความเห็นของประชาชนโดยการทำประชามติ แม้จะมีหลายฝ่ายออกมาคัดค้าน เนื่องจากทุกคนมีพื้นฐานความเข้าใจเกี่ยวกับของอุดมการณ์และความคิดในกรอบประชาธิปไตยเป็นอย่างดี เพียงแต่แนวทางปฏิบัติอาจมีความเห็นไม่ตรงกันจึงต้องปรับปรุงแก้ไขในส่วนนี้ด้วย
ส่วนกรณีที่มีข่าวทางการสหรัฐส่งเงินช่วยเหลือในการพัฒนาประชาธิปไตยในประเทศไทยจำนวน 680 ล้านบาทนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามอบให้ใคร มีวัตถุประสงค์อย่างไร แต่ขณะนี้ไม่มีข้อมูลว่าเงินจำนวนดังกล่าวได้มอบให้กับสถานีโทรทัศน์ TAN (Thai-ASEAN News Network) ในเครือ ASTV หรือไม่ เพราะไม่รู้ข้อเท็จจริง แต่ก็มองว่าคงไม่มีปัญหาหากเงินดังกล่าวไม่ได้ใช้เพื่อแทรกแซงกระบวนการทำงานของรัฐบาล
"เรากำลังตรวจสอบอยู่ว่าเงินมาจากที่ไหน ไม่ใช่เราทำเงินหาย ถ้าเอาเงินมาให้รัฐบาลแล้วทำเงินหายก็ว่ารัฐบาลได้...ต้องไปดูว่าเขาให้เงินใครมา แล้วเอาไปใช้ทำอะไร" นายสุเทพ กล่าว