นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัท กัมพูชา แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส(CATS) ถูกทางการกัมพูชาส่งคนเข้าไปควบคุมกิจการชั่วคราว แต่คงไม่ถึงขั้นยกเลิกสัมปทาน โดยได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศประสานงานกับทางรัฐบาลกัมพูชาในเรื่องข้อตกลงว่าด้วยการคุ้มครองการลงทุน เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่บริษัทแล้ว
"เวลานี้คงยังไม่ถึงจุดนั้น(ยกเลิกสัมปทาน) เป็นคำสั่งศาลที่เขาดำเนินการอยู่ ยังไม่มีสัญญาณที่บ่งบอกชัดว่าจะลุกลามบานปลาย ทางเราก็เตรียมตัวกันอยู่" นายอภิสิทธิ์ กล่าวสำหรับบริษัทเอกชนของไทยรายอื่นที่เข้าไปลงทุนอยู่ในประเทศกัมพูชานั้น รัฐบาลอยู่ระหว่างชี้แจงทำความเข้าใจเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบตามมา
นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะตอบกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ออกมาระบุถึงเทปลับที่นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ สั่งการให้จารกรรรมข้อมูลจนส่งผลให้มีการจับกุมตัววิศวกรชาวไทย โดยระบุว่า เรื่องนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ปฏิเสธไปแล้ว
พร้อมกันนั้น นายกรัฐมนตรียังเรียกร้องให้นักการเมืองตั้งสติ ไม่ควรนำผลประโยชน์ของประเทศแลกกับความต้องการส่วนตัว เพราะเป็นการกระทำที่ไม่มีใครทำกัน
ส่วนการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศจะเข้ามาอยู่ตามแนวชายแดนภาคอีสาน หากถูกรัฐบาลกดดันนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากเป็นเช่นนั้นก็พร้อมจะดำเนินการตามกฎหมาย และมั่นใจว่าเรื่องนี้จะไม่นำไปสู่เหตุการณ์รุนแรงบานปลาย หรือเพิ่มความรุนแรงให้กับการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ในช่วงวันที่ 28 พ.ย.-2 ธ.ค.52 เพราะรัฐบาลจะทำหน้าที่รักษากฎหมายอย่างเต็มที่
"ไม่มีเกมการเมือง แต่รัฐบาลต้องการรักษากฎหมายและความถูกต้อง หากประชาชนสนับสนุนความถูกต้อง เชื่อว่ารัฐบาลจะดูแลได้" นายอภิสิทธิ์ กล่าวนายกรัฐมนตรี มั่นใจว่า การเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่ม นปช.ครั้งนี้จะไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ประกาศไว้ว่าจะล้มรัฐบาลให้ได้ก่อนวันที่ 4 ธ.ค.52 โดยรัฐบาลจะพยายามดูแลสถานการณ์ให้อยู่ในความเรียบร้อย
"ความขัดแย้งยังดำรงอยู่ ตราบเท่าที่บางส่วนไม่ยอมรับกติกาที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่เราต้องช่วยกัน...ผมมั่นใจเขาทำไม่สำเร็จ เพราะขัดกับความถูกต้อง และคนส่วนใหญ่ไม่ต้องการอย่างนั้น" นายอภิสิทธิ์ กล่าวส่วนกรณีที่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ระบุว่าจะไม่ให้ความร่วมมือกับทางการในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์การยิงระเบิดใส่กลุ่มพันธมิตรฯ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.ต.ขัตติยะ ต้องให้ความร่วมมือ เพราะแม้จะระบุว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่การออกมาพูดถึงความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นก่อนมีการชุมนุมถือเป็นข้อมูลที่ทางการจะต้องตรวจสอบ และหากไม่ให้ความร่วมมือจะยิ่งแสดงถึงเจตนาหรือมีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้อง
"จะเกี่ยวข้องหรือไม่ ไม่ทราบ แต่สิ่งที่พูดออกไปก็ควรให้ความร่วมมือ ถ้าไม่ให้ความร่วมมือยิ่งแสดงว่าเจตนา" นายอภิสิทธิ์ กล่าว