"เรืองไกร"ยื่นข้อมูล กกต.เพิ่มกรณีสอบ"วิชาญ"ส.ว.สรรหาคุณสมบัติขัด รธน.

ข่าวการเมือง Friday December 25, 2009 14:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือเพิ่มเติมถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของนายวิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ ส.ว.สรรหา กรณีกระทำการอันต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 265(1) ด้วยการไปดำรงตำแหน่งเป็นอนุกรรมการในคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการจัดทำนโยบายระดับชาติเกี่ยวกับผลประโยชน์ทางทะเล ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.)

ทั้งนี้ สกว.ถือเป็นหน่วยงานของรัฐ ภายใต้กำกับของสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งหลังจากส่งเรื่องไปครั้งแรก นายวิชาญได้ชี้แจงกับสื่อว่าเป็นอนุกรรมการการจัดการความรู้เพื่อผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเลที่แต่งตั้งโดยสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)

"สมช.เป็นส่วนราชการซึ่งมีฐานะเทียบเท่ากรม จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.สภาความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ.2502 พร้อมกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยอยู่ในกลุ่มงานด้านนโยบายในสำนักนายกรัฐมนตรี มีเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นหัวหน้าส่วนราชการ ดังนั้นการไปดำรงตำแหน่งเป็นอนุกรรมการในหน่วยงานของฝ่ายบริหารจึงยังคงมีอยู่ตามคำร้อง" นายเรืองไกร กล่าว

นายเรืองไกร กล่าวว่า การที่นายวิชาญโต้แย้งว่ากฤษฎีกาเคยให้คำปรึกษาว่าสามารถดำรงตำแหน่งเป็นอนุกรรมการได้นั้น ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีความเห็นเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 265(1) ไว้โดยสรุปได้ว่าการแบ่งแยกการใช้อำนาจอธิปไตยตามมาตรา 3 วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญ มี 3 อำนาจ คืออำนาจฝ่ายบริหาร อำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ และอำนาจฝ่ายตุลาการ

โดยเจตนารมณ์ของมาตรา 265(1) ห้าม ส.ส. และ ส.ว.ไปดำรงตำแหน่งในฝ่ายที่ใช้อำนาจด้านบริหารหรือด้านตุลาการ จะยกเว้นให้เฉพาะการดำรงตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติเท่านั้น กรณีการไปดำรงตำแหน่งอนุกรรมการไม่ว่าจะเป็นในหน่วยงานของ สมช.หรือ สกว.ก็ตาม ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานล้วนเป็นหน่วยงานในฝ่ายบริหารที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลที่บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 265(1) ห้ามไว้ทั้งสิ้น จึงขอยืนยันมายังประธาน กกต.เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบนายวิชาญตามอำนาจหน้าที่ต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ