นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยืนยันการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นรัฐบาลจะยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก โดยเป้าหมายสำคัญคือการสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในประเทศ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย
"เรื่องนี้เริ่มขึ้นมาทั้งหมดถูกหยิบขึ้นมาเป็นเงื่อนไขของความขัดแย้ง แต่ถ้าเกิดแก้ไขไปแล้วปรากฏว่าฝ่ายที่มีความขัดแย้งก็ยังขัดแย้งอยู่ และอาจจะไปขัดแย้งกับกลุ่มอื่นๆ ด้วย ซึ่งเขาไม่เห็นด้วยก็จะเป็นปัญหา" นายอภิสิทธิ์ กล่าวนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ล่าช้าไม่ได้เป็นการเตะถ่วงหรือซื้อเวลา แต่เป็นเรื่องที่ตั้งใจทำก็อยากให้ทุกฝ่ายมาเห็นพ้องต้องกัน แต่ต่อมาฝ่ายค้านขอถอนตัวไป คำถามก็คือว่า ทำไปแล้ว ฝ่ายค้านไม่เห็นด้วย มันจะเป็นประโยชน์จริงหรือไม่
ส่วนความคิดเห็นของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่จะเดนหน้าเรื่องดังกล่าวต่อไป โดยไม่รอฝ่ายค้านนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดการหารือระหว่างนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวานนี้ แต่คาดว่าจะมีโอกาสได้หารือกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลอีกครั้งในช่วงก่อนที่จะเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญในปีหน้า