(เพิ่มเติม) องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาฯ เริ่มประชุมลับเพื่อลงมติพิพากษาคดียึดทรัพย์

ข่าวการเมือง Friday February 26, 2010 09:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทั้ง 9 คนเริ่มประชุมร่วมกันเมื่อเวลาประมาณ 8.00 น.ของวันนี้แล้วเพื่ออ่านคำพิพากษาส่วนตนและจัดทำคำพิพากษากลางในคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 7.6 หมื่นล้านบาทจากการขายหุ้น บมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น(SHIN)ให้แก่กลุ่มเทมาเส็ก ก่อนอ่านคำตัดสินในช่วงบ่าย ท่ามกลางความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดของเจ้าหน้าที่

อนึ่ง อัยการสูงสุดยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2551 ขอให้ศาลมีคำสั่งให้เงินที่มาจากการซื้อขายหุ้น SHIN มูลค่า 69,722,880,932.05 บาท และเงินปันผลจำนวน 6,898,722,129 รวมจำนวน 76,621,603,061.05 บาท พร้อมดอกผล ซึ่งอยู่ในความครอบครอง พ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัว รวมถึงบุคคลใกล้ชิดที่มีชื่อเป็นเจ้าของทรัพย์สินรวม 22 ราย ตกเป็นของแผ่นดิน

การพิจารณาประเด็นต่าง ๆในคดีดังกล่าวจะเริ่มต้นจากประเด็นที่ว่า ทรัพย์สินดังกล่าวถือเป็นการครอบครองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งหมดหรือไม่ และมีการใช้อำนาจหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรีเอื้อประโยชน์ให้แก่กิจการในเครือ SHIN หรือไม่ และจะตัดสินให้มีการยึดทรัพย์หรือไม่อย่างไร

สำหรับประเด็นการใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจในเครือ SHIN ประกอบด้วย การแปลงค่าสัมปทานกิจการโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิต, การแก้ไขสัญญาปรับลดอัตราส่วนแบ่งรายได้ที่ บมจ.เอไอเอส อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC)ต้องจ่ายให้รัฐจากการให้บริการระบบพรีเพด เหลือร้อยละ 20 จากเดิมที่ต้องจ่ายแบบอัตราก้าวหน้าในอัตราร้อยละ 25-30

รวมทั้ง แก้ไขสัญญาให้ปรับลดอัตราค่าโรมมิ่ง โดยให้ ADVANC ใช้เครือข่ายร่วมกับผู้ให้บริการรายอื่น มีผลทำให้ ADVANC ไม่ต้องจ่ายเงินกว่า 1.8 หมื่นล้านบาทให้กับรัฐ, แก้ไขสัญญาสัมปทานดาวเทียมไอพี สตาร์ และ การอนุมัติให้รัฐบาลพม่ากู้เงินจากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(เอ็กซิมแบงก์) 4,000 ล้านบาท เพื่อนำไปซื้ออุปกรณ์การพัฒนาระบบโทรคมนาคมจากบริษัทในเครือ SHIN

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขบวนรถกันกระสุนแลนด์โรเวอร์จำนวน 9 คันที่ไปรับองค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 คนเดินทางมาถึงสำนักงานศาลฎีกาตั้งแต่เวลา 07.00 น.เพื่อเข้าประชุมลับสุดยอดเช้าวันนี้ โดยใช้รถตำรวจนำ และจัดพื้นที่จอดโดยเฉพาะ พร้อมทั้งกั้นพื้นที่โดยรอบไม่ให้มีการนำรถยนต์อื่น ๆ เข้ามาใกล้บริเวณดังกล่าว

ส่วนบรรยากาศบริเวณหน้าศาลฎีกาเช้านี้ มีการตรวจตราเข้มงวด โดยเจ้าหน้าที่มีการนำแผงกั้นรอบรั้วศาล และห้ามจอดรถในบริเวณดังกล่าว ขณะที่รถที่จะเข้าออกได้จะต้องมีสติ๊กเกอร์เท่านั้น และมีเจ้าหน้าที่ยืนประจำเป็นจุด ห่างกันจุดละประมาณ 10 เมตร ขณะที่บริเวณภายในอาคารมีการตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ และมีเจ้าหน้าที่ประจำพกโล่และกระบองยืนตามจุด และบริเวณประตู 4 ซึ่งเป็นประตูทางเข้าซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามสำนักงานอัยการด้านถนนหับเผย และมีการตั้งเครื่องสแกนตรวจอาวุธก่อนจะใช้เจ้าหน้าที่ขอตรวจค้นกระเป๋าและสัมภาระอย่างละเอียดอีกด่านหนึ่ง

โดย บช.น.ได้เตรียมกำลังตำรวจไว้ 3 กองร้อยเพื่อดูแลความเรียบร้อยบริเวณโดยรอบศาล แต่ไม่พบมีการใช้กำลังทหารเข้ามาเสริมการรักษาความสงบเรียบร้อยแต่อย่างใด ขณะที่สื่อมวลชนที่เดินทางมาทำข่าวการตัดสินคดีไม่น่าจะต่ำกว่า 100 ชีวิต พร้อมด้วยรถถ่ายทอดสด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางมาอยู่บริเวณหน้าศาลบ้างไม่มาก ประมาณ 2-3 คน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ