พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า จากการขอคืนพื้นที่ที่ผ่านมา เราได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ในการปฏิบัติการของภาครัฐ ตนเคยชี้แจงว่าเราจะดำรงภารกิจโดยช่วงที่มีการขอคืนพื้นที่ในช่วงเวลา 15.00 น. — 16.00 น. ซึ่งหากทำต่อในช่วงกลางคืนจะเป็นอุปสรรค ดังนั้นในเวลา 18.00 น. เราหยุดการเคลื่อนที่ แต่เหตุปะทะกันเพราะกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนเคลื่อนที่และผลักดันเลยเกิดการปะทะกัน ทั้งนี้ช่วงนี้มีการเผยแพร่คลิปในอินเตอร์เน็ต ซึ่งสามารถทำการตัดต่อทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ วันนี้ตนเอาคลิปมาเปิดให้ดู ซึ่งไม่ได้เป็นการแก้ตัว แต่จะได้ใช้วิจารณญาณว่า ข้อมูลของใครน่าเชื่อถือและเราพร้อมรับการตรวจสอบจากสังคมและกระบวนการยุติธรรม
หลังจากแถลงข่าวจบก็ได้มีการนำคลิปมาเปิดฉายให้กับผู้สื่อข่าวดูทั้งหมด 5 คลิป โดยคลิปที่หนึ่งเป็นคลิปที่ผู้ชุมนุมคนหนึ่ง โดนยิงจากทางด้านหลังของกลุ่มผู้ชุมนุม ที่แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ทหารไม่ได้เป็นผู้ยิง
คลิปที่สอง เป็นคลิปที่กลุ่มผู้ชุมนุมระบุว่า ได้เห็นคนใส่เสื้อสีฟ้ายิงระเบิดมาจากดาดฟ้า ไม่ใช่ทหารยิง แต่เป็นคนแต่งชุดทหารและสวมชุดสีดำคุม
คลิปที่สาม เป็นคลิประหว่างเกิดเหตุระเบิด โดยมีกลุ่มผู้ชุมนุมได้พูดว่า “ใครมาช่วยเรา เสธ.แดง"หรือเปล่า"
คลิปที่สี่เป็นคลิปที่ทหารได้ยิงคุ้มกันผู้บาดเจ็บเพื่อถอนตัวออกจากพื้นที่ และคลิปที่ห้า เป็นคลิปที่กลุ่มผู้ชุมนุมขัดขวางไม่ให้นำผู้เจ็บออกจากพื้นที่พร้อมกับพยายามรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ ซึ่งคลิปที่นำมาเปิดนำมาจากหลายเว๊บไซต์เช่น www.youtube.com ,www.cbnpress.com, www.thailandmirror.com , www.combatcamera.com
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า อยากเรียนว่าผู้เข้าชุมนุมอาจจะตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่หวังดีหยิบฉวยเอาชีวิตของผู้ชุมนุมสร้างสถานการณ์ การชุมนุมเกินเลยการชุมนุมโดยสงบไปแล้ว ส่วนกรณีที่มีคลิประบุว่ามีเสียงปืนของทหารดังขึ้นขอเรียนว่าการยิงปืนของเจ้าหน้าที่มี 2 กรณี 1 คือการยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อขู่ 2 ใช้ในการปกป้องชีวิต ซึ่งการยิงปืนของทหารจะยิงเป็นนัดไม่ยิงเป็นชุด การยิงเป็นนัดเพราะไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสีย
อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าเป็นการยิงของทหารเป็นการยิงเพื่อคุ้มครองในการถอนตัวเพื่อถอยไปข้างหลัง และนำคนเจ็บออกมา ถ้าเราประสงค์จะทำลายต้องยิงและเดินไปข้างหน้า ซึ่งตนเรียนว่าทหารที่ยิงมีตัวตนชัดเจน แต่ไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้ เพราะอาจจะสร้างความกดดันให้กับทหาร และเราพร้อมจะนำทหารท่านนี้ไปชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการทหารหากมีการตรวจสอบ
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า คลิปที่นำมาเสนอนำมาจากพื้นที่การชุมนุมของเสื้อแดงทั้งสิ้น หากจะบอกว่าแกนนำไม่รู้เรื่องกับการก่อการร้ายที่แฝงตัวมาในการชุมนุมเด็กอมมือยังไม่เชื่อ ตนก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่เชื่อ ข้อมูลตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจของท่าน ขณะนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นการก่อการร้ายที่ปนมาในการชุมนุม ดังนั้นเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการต่อไป แต่ก็ต้องฟังนโยบายของรัฐบาล ตอนนี้เรากำลังฟื้นฟูกำลังพลและยุทโธปกรณ์เพื่อปฏิบัติการต่อไป ในการปฏิบัติการเรายึดตามกฎการใช้กำลัง 7 ขั้นตอน หากทำตามนี้แน่นอนว่า จะไม่มีผู้เสียชีวิต แต่กลุ่มก่อการร้ายที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม เอาผู้ชุมนุมเป็นโล่ กำบังได้ใช้อาวุธสงครามทำร้ายเจ้าหน้าที่ และส่งผลให้ประชาชนที่ไม่รู้เรื่องหลงไปกับการชุมนุม และเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ
“ขณะนี้เราจำเป็นต้องหยุดก่อน เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมว่าจะทำอย่างไร จึงจะดำเนินการต่อการชุมนุมที่ผิดกฏหมายและการก่อการร้ายที่แฝงตัวอยู่ได้ โดยไม่มีผู้สูญเสียหรือหากจำเป็นต้องสูญเสีย ก็ต้องสูญเสียน้อยที่สุดที่สังคมเข้าใจและยอมรับ ซึ่งเป้าหมายของกลุ่มผู้ก่อการความรุนแรง ต้องการยกระดับการชุมนุมให้รุนแรงขึ้นบิดเบือนข้อมูล ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีหลายภาพที่มีกลุ่มคนใส่แจ็คเก็ตดำและมีสัญลักษณ์นปช.ถือปืนอาก้าอยู่บริเวณหน้ากลุ่มผู้ชุมนุมและไม่มีใครร้องให้จับ ดังนั้นจึงเชื่อว่า การที่คนเป็นถึงระดับแกนนำบางส่วนจะไม่รู้เรื่องนี้เลย เป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าไม่รู้เรื่องเลยชาติหน้าก็อย่าเกิดเป็นแกนนำเลย"พ.อ.สรรเสริญ กล่าว
ส่วนกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงจะทิ้งเวทีชุมนุมที่สะพานผ่านฟ้าไปรวมตัวที่ราชประสงค์ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า หากเป็นอย่างนั้นถือเป็นบุญของคนกทม. แต่หากจะกรุณาขอให้ท่านมาร่วมที่สะพานผ่านฟ้าและทิ้งแยกราชประสงค์ เพราะเป็นพื้นที่ย่านเศรษฐกิจธุรกิจที่สำคัญ ส่วนที่ผ่านฟ้าจะทำความเดือนร้อนกับประชาชนน้อยเพราะเป็นสถานที่ราชการ หากเห็นแก่ประชาชนและส่วนรวมท่านสามารถตกลงใจใหม่ได้ ทั้งนี้ประชาชนมีสามส่วนคือคนส่วนใหญ่ของประเทศที่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม ส่วนที่สอง ประชาชนส่วนหนึ่งที่เชื่อคำยุยงปลุกปั่นของแกนนำ และสาม กลุ่มก่อการร้าย ซึ่งการแยกคนกลุ่มน้อยมาอยู่กับคนกลุ่มใหญ่ไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากศอฉ.แล้วสื่อมวลชนต้องช่วยกัน ส่วนผู้ชุมนุมในช่วงเช้าที่ผ่านมาที่สะพานผ่านฟ้ามี 3,000 คน ราชประสงค์มี 2,000 คน รวม 5,000 คน