ศอฉ.เตือนราชประสงค์พื้นที่อันตราย ปชช.อาจเป็นเหยื่อก่อการร้าย

ข่าวการเมือง Thursday April 15, 2010 18:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบกในฐานะโฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เปิดเผยว่า หลังจากมีการชี้แจงข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ กับกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ทำให้สังคมได้ยอมรับการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารมากขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้ก่อการร้ารยที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มคนเสื้อแดง อย่าไรก็ตาม ตนเองไม่เคยได้ยิน ศอฉ. กำหนดวันที่จะเข้าสลายการชุมนุมตามที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงกล่าวอ้าง แต่ระหว่างนี้ ศอฉ.อยู่ระหว่างฟื้นฟูกำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งได้เตรียมการพร้อมในทุกเรื่อง เราไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสีย แต่หากดำเนินการต้องให้มีความสูญเสียน้อยที่สุด การปฏิบัติต้องรอบคอบ อธิบายสังคมได้ เมื่อสังคมสะท้อนมาให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการกับผู้กระทำผิดกฎหมาย เราก็ต้องทำตามกฎหมาย แต่ก็มีคำถามตามเกี่ยวกับความสูญเสีย เราก็ต้องมีคำตอบอธิบายได้ ว่าเกิดจากอะไร

ส่วนกรณีที่แกนนำคนเสื้อแดงออกมาข่มขู่เจ้าของอาคารบริเวณแยกราชประสงค์ หากให้ที่พักพิงพิงเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ในการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมจะทำลายอาคารสถานที่นั้น ถือว่าแกนนำได้กระทำผิดกฎหมาย ซึ่งศอฉ.จะไม่ยอมให้แกนนำหรือกลุ่มก่อการร้ายกระทำเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม ศอฉ.และรัฐบาลได้หารือกันแล้ว เพื่อนำความสงบสุขกลับคืนบ้านเมือง หากเป็นเหตุให้อาคารสถานที่ได้รับความเสียหาย ยินดีที่จะชดใช้ค่าเสียหาย

พ.อ. สรรเสิรญ แถลงอีกว่า ภายหลังเหตุการณ์ปะทะเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง เมื่อวันที่ 10 เม.ย. มีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ บาดเจ็บ มีผู้เสียชีวิต ประชาชนนำเงิน มอบให้ผู้บาดเจ็บ ญาติผู้เสียชีวิต หลักล้านบาทต่อวัน พร้อมกับนำอาหารเครื่องดื่ม นอกจากนี้ได้แสดงวิธีให้กำลังใจต่อทหาร ตำรวจ ด้วยการโบกมือ บางคนตะโกนสู้ๆ ให้บังคับใช้กฎหมายเข้มข้น นี่คือเสียงกำลังที่มีให้ต่อเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะอาวุธปืนที่แจ้งความ สูญหายเช่นเอ็ม 16 ยังไม่ได้รับกลับคืน เกรงว่าจะตกสู้มือผู้ไม่หวังดี และย้อนมาทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนเราจะนำกำลังใจเหล่านี้ทุ่มเททำงานกลับมาสู่พี่นอ้งประชาชนโดยเร็วที่สุด และสะท้อนว่าสังคมให้ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ในการปฏิบัติหน้าที่ ควรทำอะไรสักอย่างต่อการบังคับใช้กฎหมายเคร่งครัดต่อการชุมนุมที่มีกลุ่มก่อการร้ายแฝงตัว

"ศอฉ.ทราบมาอย่างดี จัดขบวนรถจักรยานนต์ ตะระเวนไปทั่วกทม.สร้างความไม่พอใจประชาชนกทม.มาก จึงขอวิงวอน ประชาชนขอให้ใช้ความอดทน อย่าออกมาเผชิญหน้า อย่ามำทำร้ายกลุ่มคนเสื้อแดง ปล่อยให้เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ เราจะดำเนินการทุกอย่างเพื่อบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น เพื่อนำความสงบสุขกลับคืนประเทศ มีความจำเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ดำเนินการอย่างเฉียบงขาด แม้จะสูญเสียแต่ยังดีกว่า ให้กลุ่มก่อการร้ายปะปนประชาชนและมาทำลายความสงบสุขบ้านเมือง"พ.อ.สรรเสริญ กล่าว

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ศอฉ. ได้เผยแพร่ภาพในพื้นที่ชุมนุม ไปแล้วว่า ชายถือธงถูกยิงด้านหลัง ไม่ใช่จากเจ้าหน้าที่จากแนวหน้า ที่ถูกยิงหัวสมองแตก จึงขอเรียนว่า พื้นที่แยกราชประสงค์ เป็นพื้นที่ไม่ปลอดภัย ขอย้ำเป็นพื้นที่ไม่ปลอดภัย กลุ่มผู้ก่อการร้ายพร้อมนำอาวุธสงครามทำร้ายเจ้าหน้าที่ และไม่เลือกเจ้าหน้าที่ด้วย แม้กระทั่งกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยอาจตกเป็นเหยื่อการกระทำของกลุ่มนี้

ดังนั้น เมื่อประชาชนกลับไปฉลองเทศกาลสงกรานต์แล้ว ขอกรุณาอย่ากลับเข้ามาพื้นที่แยกราชประสงค์อีกเพราะเป็นพื้นที่อันตรายมากๆ พี่น้องประชาชน ที่มีญาติพี่น้อง ขอความรกรุณาแจ้งให้เขาได้ทราบออกจากพื้นที่โดยเร็วๆ เพราะอันตรายที่สุด

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า จากการประเมินของศอฉ.ตั้งแต่ 8.30 น. มียอดผู้ชุมนุมบริเวณสี่แยกราชประสงค์ประมาณ 8,000 — 8,500 คน โดยหลังจากที่ ศอฉ.ได้เผยแพร่ภาพข้อเท็จจริงจากการกระทำของกลุ่มก่อการร้ายที่แฝงตัวเข้ามาในหมู่ผู้ชุมนุม ยิงทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และประชาชน ก็ทำให้พี่น้องต่างจังหวัดรับทราบข้อเท็จจริงมากขึ้น และได้เตือนญาติพี่น้องไม่เข้าร่วมชุมนุม ซึ่งเป็นผลให้จำนวนผู้ชุมนุมลดลงด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ