วอร์รูมประเมินสถานการณ์ยกระดับเป็นสงครามกลางเมือง ปัดข่าวนายกฯลาออกหลังยุติ

นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ประชุมคณะทำงานติดตามเพื่อประเมินสถานการณ์ทางการเมือง (วอร์รูม) พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เป็นความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับผู้ชุมนุม แต่เป็นความขัดแย้งของผู้ที่สูญเสียอำนาจจากเหตุการณ์ 19 ก.ย. 49 ซึ่งดูได้จากการเคลื่อนไหวของแกนนำ นปช.ที่ระบุว่าชุมนุมอย่างสันติ อหิงสา จนกลายเป็นการก่อการจลาจลและพัฒนาไปสู่ความเป็นสงครามกลางเมืองที่ทำเพื่อให้มีนานาชาติเข้ามาเป็นตัวกลาง เพื่อทำลายรัฐไทย

ขณะที่รัฐบาลพยายามเข้าควบคุมสถานการณ์ ซึ่งข้อเสนอของฝ่ายต่างๆที่เรียกร้องรัฐบาลและส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันหารือ ซึ่งรัฐบาลพร้อมใช้วิธีนี้ร่วมกันแก้ไขปัญหา และไม่มีข้อเท็จจริงที่จะใช้ความรุนแรง

พรรคประชาธิปัตย์และรัฐบาลไม่อยากให้การชุมนุมที่ยืดเยื้อ เพราะฉะนั้นความรุนแรงไม่ได้เกิดจากรัฐบาล แต่เกิดจากผู้ชุมนุมที่ไม่บริสุทธิ์ ซึ่งรัฐบาลก็อยากจะให้จบโดยเร็ว แต่ไม่สามารถกำหนดวันได้ ทั้งนี้ เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เชื่อว่าจะมีองค์กรต่างชาติเข้ามายุ่งเกี่ยว แต่อาจจะมีองค์กรที่สนใจเข้ามาร่วมดูเหตุการณ์บ้าง

นายชำนิ กล่าวถึงขณะนี้ทางกลุ่มเสื้อแดงได้ตอบรับข้อเสนอของส.ว.ที่เข้ามาเป็นตัวกลางในการเจรจาว่า รัฐบาลไม่ได้ปิดโอกาสในความร่วมมืออยู่แล้ว แต่อยู่ที่จะเจรจาอะไรบ้าง ซึ่งตอนนี้ต้องนำภาวะสันติสุขกลับคืนมาให้ได้และขณะนี้ประเทศได้สูญเสียความเชื่อมั่น ฉะนั้น การนำความเชื่อมั่นกลับคืนมาได้ด้วยขบวนปรองดองของนายกฯ 5 ข้อ

ส่วนที่ข่าววอร์รูมพรรคประชาธิปัตย์ประเมินว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะลาออกหลังจากที่กลุ่มคนเสื้อแดงยุติการชุมนุม และเป็นความเห็นตรงกับพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ขอยืนยันว่าไม่มีข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ และไม่มีความเป็นไปได้ที่จะมีการกำหนดท่าทีให้นายกปฏิบัติเช่นนั้น ซึ่งขณะนี้นายกฯ และพรรคร่วมรัฐบาลได้ร่วมกันที่จะทำให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด