นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นับจากวันพรุ่งนี้นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับกระบวนการปรองดองเป็นที่แรกที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และเชื่อว่าหลังจากนี้ก็คงจะทยอยเดินทางลงพื้นที่ไปยังภูมิภาคต่างๆ
“อยากจะให้ทุกภาคส่วนทุกภูมิภาคได้สนับสนุนและเปิดกว้าง เปิดโอกาสให้รัฐบาลและคณะทำงานเรื่องนี้ได้ลงไปในพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูล ซึ่งการลงพื้นที่ในภูมิภาคต่างๆก็คงจะเป็นดัชนีชี้วัดสถานการณ์บ้านเมือง ว่าเข้าสู่ภาวะปกติหรือยัง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการที่จะต้องประเมินสถานการณ์ว่าบ้านเมืองพร้อมที่จะเข้าสู่การเลือกตั้งตามที่นายกฯได้ประกาศแล้วหรือไม่" นายเทพไทระบุ
นายเทพไท กล่าวว่า การที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.เพื่อไทย ออกมาระบุว่า การพูดถึงขบวนการปรองดองเป็นแค่การสร้างภาพนั้น เป็นเพราะนายจตุพรพยายามที่จะต่อต้านขบวนการปรองดองทุกรูปแบบ เนื่องจากเห็นว่าหากกระบวนการปรองดองเดินหน้าต่อไปอาจจะกระทบต่อขบวนการปอกลอกนายใหญ่ จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องต่อต้าน
สำหรับข้อกล่าวหาว่ารัฐบาลใช้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไล่ล่าประชาชนและกลุ่มคนเสื้อแดง โดยตั้งข้อหาอย่างไม่มีเหตุผล รวมไปถึงกล่าวหาว่ามีการคุกคามชีวิตของคนเสื้อแดงนั้น นายเทพไท กล่าวว่า รัฐบาลไม่มีแนวความคิดและพฤติกรรมตามที่ถูกกล่าวหา การตั้งข้อกล่าวหาต่อผู้กระทำผิดก็ล้วนแล้วแต่ทำไปตามกฎหมายทั้งสิ้น ไม่ได้ทำตามอำเภอใจ และหากแกนนำคนเสื้อแดงหรือกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้กระทำผิดกฎหมายก็ไม่ต้องกังวล
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยืนยันมาโดยตลอดว่าบุคคลที่เห็นต่างกับรัฐบาล ถือเป็นสิทธิ รัฐบาลจะไม่ใช้เงื่อนไขความเห็นต่างไปไล่ล่าหรือออกหมายจับตามที่นายจตุพรกล่าวหา
“แกนนำคนเสื้อแดงได้พยายามที่จะกระทำทุกวิถีทางเพื่อดิ้นรนให้ตัวเองหลุดจากข้อกล่าวหา เพราะในขณะนี้มวลชนคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งได้เกิดความรู้สึกที่ต่อต้านแกนนำ มีการเคลื่อนไหวในลักษณะประณาม แกนนำคนเสื้อแดงว่าได้หลอกมวลชนมาชุมนุม ในที่สุดก็สู้ไม่จริงถอดใจหนีทิ้งมวลชนให้อยู่เดียวดาย รวมไปถึงการหลอกมวลชนหรือหลอกคนเสื้อแดงมาตาย ซึ่งคนเหล่านี้ก็พยายามที่จะดิ้นรนเพื่อให้หลุดจากข้อกล่าวหาที่มวลชนคนเสื้อแดงกล่าวหาแกนนำ" นายเทพไทกล่าว
นอกจากนี้ กรณีที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาสัมภาษณ์ในลักษณะว่านายกฯ สั่งรื้อฟื้นคดีฆ่าตัดตอนเป็นการกลั่นแกล้งพ.ต.ท.ทักษิณ นั้น นายเทพไท กล่าวชี้แจงว่า ขบวนการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีฆ่าตัดตอนได้เริ่มขึ้นมาตั้งแต่ยุครัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เพียงแต่หลังรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์เป็นรัฐบาลของนายสมัครและนายสมชาย ไม่ได้สานต่อคดีนี้ จึงล่วงเลยมาถึงรัฐบาลอภิสิทธิ์ จึงจำเป็นที่จะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาดำเนินการต่อ
หากรัฐบาลละเลยและเพิกเฉยต่อการดำเนินการเรื่องนี้ก็จะถูกตำหนิและจะถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ได้ เมื่อกระบวนการสืบสวนคดีฆ่าตัดตอนได้เดินมาถึงขบวนการที่จำเป็นต้องสานต่อรัฐบาลก็จำเป็นที่จะต้องทำเรื่องนี้ให้ปรากฏข้อเท็จจริง ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งพ.ต.ท.ทักษิณแต่อย่างใด และเชื่อว่าหลังจากนี้ยังต้องมีขบวนการหรือเรื่องอีกหลายเรื่องที่อาจจะกระทบต่อตัวพ.ต.ท.ทักษิณ เช่น เรื่องการถอดถอนยศพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งกระบวนการก็ดำเนินการไปตามขั้นตอน รวมไปถึงคดีความในศาลที่บางส่วนถูกศาลจำหน่ายพักคดีไป