นายหลี่ เข่อเจียน รองนายกรัฐมนตรีจีน เรียกร้องให้มีการผลักดันจีนให้ก้าวขึ้นเป็นประเทศอุตสาหกรรม รวมทั้งผลักดันให้มีการขยายตัวของเขตเมือง (urbanization) และพัฒนาการเกษตรให้มีความทันสมัย พร้อมกับย้ำถึงความจำเป็นของการปรับเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจ
นายหลี่กล่าวในระหว่างการตรวจพื้นที่ในเมืองนานยัง ซึ่งตั้งอยู่ในมณทลเหอหนานของจีนในระหว่างวันที่ 8-9 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยนายหลี่ได้เปิดเผยเรื่องดังกล่าวนอกรอบการประชุมโครงการก่อสร้างเพื่อผันน้ำจากภูมิภาคตอนเหนือไปยังตอนใต้
-- นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนยืนยันว่า จีนจะยังคงเดินหน้าปฏิรูปกลไกอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อให้สกุลเงินหยวนเคลื่อนไหวอย่างยืดหยุ่นมากขึ้น แต่ธนาคารกลางจีนจะดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป
-- นายโจวกล่าวกับผู้สื่อข่าวนอกรอบการประชุมประจำปีของสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตันของสหรัฐว่า เงินหยวนที่แข็งค่ามากเกินไปจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของจีน
นอกจากนี้ นายโจวกล่าวว่า ประเด็นเงินหยวนเป็นประเด็นที่ค่อนข้างซับซ้อน ซึ่งการดำเนินการใดๆก็ตามจะต้องคำนึงถึงสภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจ รวมถึงภาวะเงินฝืด อัตราว่างงาน ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ดุลการชำระเงิน และปัจจัยอื่นๆอีกหลายด้าน
-- สำนักปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (SAFE) เปิดเผยว่า หนี้นอกประเทศของจีน (ไม่นับรวมหนี้นอกประเทศของฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน) อยู่ที่ระดับ 5.1381 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 7.057 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับช่วงสิ้นสุดไตรมาสแรก
โดยหนี้นอกประเทศระยะกลางและระยะยาวมีมูลค่า 1.70022 แสนล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 33.09% ของหนี้นอกประเทศทั้งหมด ณ สิ้นเดือนมิถุนายน ซึ่งหนี้ส่วนมากมาจากภาคการผลิตและการก่อสร้างสาธารณูปโภคด้านการขนส่ง
-- ผลการสำรวจนักวิเคราะห์จากสถาบันการเงิน 22 แห่งพบว่า อัตราการขยายตัวของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนมีแนวโน้มชะลอตัวลงต่ำกว่าระดับ 10% ในไตรมาส 3 ปีนี้ โดยคาดว่าจีดีพีในช่วงเวลาดังกล่าวจะขยายตัวที่ระดับ 9.4%
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) จะขยายตัว 3.5% ต่อปีในเดือนก.ย. สำนักข่าวซินหัวรายงาน