สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อคืนนี้ (19 ต.ค.) เนื่องจากการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเหนือความคาดหมายของธนาคารกลางจีนได้ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ดิ่งลง 36.1 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 1,336 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1346.0 - 1335.8 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ดีดขึ้น 63.3 เซนต์ ปิดที่ 23.78 ดอลลร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ดิ่งลง 9.75 เซนต์ ปิดที่ 3.7575 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ดิ่งลง 20.7 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,677.6 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 9.65 จุด ปิดที่ 578.45 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำอย่างหนักหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ภายหลังจากธนาคารกลางจีนสร้างเซอร์ไพรซ์ด้วยการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก 0.25% โดยอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 1 ปี จะเพิ่มขึ้นจาก 2.25% เป็น 2.50% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 1 ปีจะเพิ่มขึ้นจาก 5.31% เป็น 5.56% โดยมาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพุธที่ 20 ต.ค.เป็นต้นไป
การประกาศขึ้นดอกเบี้ยอย่างเหนือความคาดหมายของธนาคารกลางจีนส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 1.6% เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ ซึ่งการแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำมีราคาแพงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆอยู่ และสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ความน่าดึงดูดใจของทองคำลดน้อยลงไปด้วย