ทางการจีนเรียกร้องให้ผู้ประกอบการเหมืองทั่วประเทศเพิ่มความพยายามในการควบรวมกิจการเหมือง เพื่อลดจำนวนเมืองขนาดเล็กที่มีเทคโนโลยีการผลิตล้าสมัย
สภาแห่งรัฐจีน หรือคณะรัฐมนตรีจีนเปิดเผยแถลงการณ์จากคณะกรรมการธิการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนซึ่งเรียกร้องให้บริษัทเหมืองถ่านหินในแหล่งผลิตถ่านหินสำคัญๆ ของประเทศ อาทิ มณฑลซานซี เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน และมณฑลฉ่านซี เดินหน้าควบรวมกิจการเหมืองถ่านหิน รวมถึงปิดเหมืองถ่านหินขนาดเล็กที่มีการผลิตล้าสมัย เช่นเดียวกับมณฑลเฮย์หลงเจียง หูหนาน เสฉวน กุ้ยโจว และยูนนานที่ถูกเรียกร้องมาในลักษณะเดียวกันด้วย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จีนหวังที่จะเห็นบริษัทเหมืองขนาดใหญ่ที่มีกำลังการผลิต 50 ล้านตันต่อปีมากขึ้น และมองว่าผลผลิตโดยรวมของเหมืองเหล่านี้ควรมีสัดส่วนสูงกว่า 50% ของผลผลิตเหมืองถ่านหินทั้งหมดในประเทศ
เหอ ยูกัว เจ้าหน้าที่ศูนย์พัฒนาและวิจัยอุตสาหกรรมถ่านหินของจีนกล่าวว่า รัฐบาลเสร็จสิ้นการกำหนดแผนพัฒนาอุตสาหกรรมถ่านหินในแผนพัฒนาเศรษฐกิจระยะ 5 ปีฉบับที่ 12 โดยได้วางแผนที่จะจัดตั้งกลุ่มเหมืองถ่านหินขนาดใหญ่ 20 แห่งที่มีกำลังการผลิตต่อปี 10-40 ล้านตันภายในปี 2558 ซึ่งผลผลิตในเหมืองถ่านหินขนาดใหญ่ที่มีกำลังการผลิตสูงกว่า 50 ล้านตันจะมีสัดส่วน 65% ของกำลังการผลิตถ่านหินทั้งประทศในช่วงเวลาดังกล่าว
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนได้ผลักดันการควบรวมกิจการเหมืองถ่านหินเพื่อลดจำนวนเหมืองที่อันตรายและเปิดดำเนินการผลิตมาเป็นเวลานาน เพื่อยกระดับความปลอดภัยและรักษาสิ่งแวดล้อม
สำนักงานพลังงานแห่งชาติ (NEA) เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ จีนได้ปิดเหมืองถ่านหินขนาดเล็กไปแล้ว 1,355 แห่ง ซึ่งมีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 125.19 ล้านตัน โดยในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา NEA คาดการณ์ว่าจะดำเนินการปิดเหมืองถ่านหินขนาดเล็กที่อันตราย 1,539 แห่ง ซึ่งมีกำลังการผลิตล้าสมัยรวม 121.67 ล้านตันในปีนี้ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุการเสียชีวิตของคนงานเหมืองและเพื่อลดการปล่อยมลพิษ