นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากการหารือกับกลุ่มผู้ประกอบการตลาดค้าส่ง-ค้าปลีกอาหารสด ถึงผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่หลายจังหวัด พบว่าภาวะน้ำท่วมส่งผลให้พื้นที่ปลูกผักในหลายจังหวัดได้รับความเสียหาย และยังเป็นอุปสรรคไม่สามารถขนส่งผักมาจำหน่ายตามตลาดกลางได้ ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตที่เข้าสู่ตลาดค้าส่งขนาดใหญ่ ทั้งตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง และตลาดศรีเมือง จ.ราชบุรี ลดลง 10-30% และทำให้ราคาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยถึง 10-20% แต่ยังมีปริมาณเพียงพอต่อการบริโภคและไม่ขาดตลาด
สำหรับพืชผักที่ได้รับผลกระทบมากส่วนใหญ่มาจากแหล่งเพาะปลูกที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยเฉพาะผักชี ต้นหอม และผักกาดหอมที่ราคาเพิ่มกว่า 100% ขณะที่ผักกินใบที่นิยมบริโภคมาก เช่น ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักกวางตุ้ง ราคาเพิ่มขึ้น 10-20% ส่วนกะหล่ำปลี ผักกาดขาวปลี ราคาไม่เพิ่ม เพราะส่วนใหญ่ปลูกบริเวณภาคเหนือ
ราคาขายผักสดในกรุงเทพฯ ณ วันที่ 26 ต.ค.53 จากกรมการค้าภายใน ผักกาดขาวปลี ก.ก.ละ 20-25 บาท กะหล่ำปลี ก.ก.ละ 20-22 บาท ผักชี ก.ก.ละ 200-210 บาท ต้นหอม ก.ก.ละ 110-120 บาท คื่นช่าย ก.ก.ละ 80-90 บาท กะหล่ำดอก ก.ก.ละ 58-60 บาท เป็นต้น
"ที่ประชุมประเมินว่าราคาผักสดน่าจะลดลงและกลับสู่สถานการณ์ปกติใน 1-2 สัปดาห์ หลังน้ำท่วมคลี่คลาย แต่ระหว่างนี้กรมการค้าภายในได้ตั้งศูนย์เฝ้าระวังผักสดเป็นการเฉพาะกิจ เพื่อติดตามดูแลภาวะราคา และเชื่อมโยงผักสดจากแหล่งพื้นที่เพาะปลูกหลายๆ แหล่งเข้าด้วยกัน และนำไปขายยังตลาดสดที่มีราคาแพง"นางวัชรี กล่าว
นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการค้ากำไรเกินควรหรือกักตุนสินค้า ขณะนี้พบว่าสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ และผักสดยังไม่ขาดแคลนและไม่พบการกักตุน หรือฉวยโอกาสขึ้นราคา หลังจากสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย กระทรวงพาณิชย์จะมีมาตรการช่วยเหลือประชาชนเพิ่มเติม
ด้านนายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า แม้สถานการณ์น้ำท่วมจะทำให้ราคาสินค้าหลายรายการ โดยเฉพาะพืชผัก และสินค้าเกษตรปรับเพิ่มขึ้น แต่สินค้าหมวดนี้มีน้ำหนักในการคำนวนเงินเฟ้อเพียง 5.78% ประกอบกับภาพรวมกำลังซื้อประชาชนไม่ได้สูงมาก ทำให้ทิศทางเงินเฟ้อไม่น่าจะปรับตัวสูงขึ้นตาม โดยยังมั่นใจว่าเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ในกรอบ 3-3.5% ตามเป้าหมายที่กำหนด