สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆได้กดดันสัญญาทองคำ นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่แข็งแกร่งขึ้นในสหรัฐยังทำให้นักลงทุนลดความต้องการในการถือครองทองคำด้วย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 30 เซนต์ ปิดที่ 1,338.60 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,328.10 - 1,343.80 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 28.60 เซนต์ ปิดที่ 23.830 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 0.6 เซนต์ ปิดที่ 3.8690 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 7.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,704.00 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 16.65 ดอลลาร์ ปิดที่ 625.45 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำอ่อนตัวลงหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆของกลุ่มประเทศคู่ค้า เพราะดอลลาร์ที่แข็งค่าส่งผลให้สัญญาทองคำมีราคาแพงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น นอกจากนี้ นักลงทุนยังลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยง หลังจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น
คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 50.2 จุด จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 48.6 จุด มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 49.2 จุด
อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากภาวะการซื้อขายโดยรวมยังคงได้รับปัจจัยบวกจากดีมานด์ทองคำที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอินเดีย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลเวิวาห์ และเทศกาล "ทิวาลี" ของศาสนาฮินดู ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 5 พ.ย.นี้
สภาทองคำโลกรายงานว่า อินเดียสั่งซื้อทองคำเป็นจำนวนมากในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ และมีแนวโน้มว่าจะซื้อเพิ่มขึ้นไปจนถึงสิ้นปีนี้ เพราะโดยปกติในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.มักเป็นช่วงที่ยอดขายอัญมณีในอินเดียพุ่งขึ้นสูงสุด เนื่องจากมีผู้ซื้ออัญมณีไปใช้ในเทศกาลวิวาห์และเทศกาลทิวาลี