คณะกรรมการกำกับดูแลธนาคารของจีนเปิดเผยว่า อัตราความพอเพียงของเงินทุนโดยเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ของจีนอยู่ที่ 11.6% เมื่อสิ้นสุดไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ เพิ่มขึ้น 0.5% จากระดับสิ้นสุดไตรมาส 2 และเพิ่มขึ้น 0.3% จากระดับต้นปีนี้
อัตราความพอเพียงของเงินทุนพื้นฐานโดยเฉลี่ยนั้นอยู่ที่ 9.5% ในช่วงสิ้นสุดไตรมาส 3 ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงขึ้น 0.5% จากช่วงสิ้นสุดไตรมาส 2 และเพิ่มขึ้น 0.4% จากช่วงต้นปีนี้
-- นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน กล่าวแสดงความเห็นในการประชุมด้านเศรษฐกิจที่กรุงปักกิ่งว่า มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 2 ของธนาคารกลางสหรัฐนั้น คงจะไม่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ เนื่องจากความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจจะทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอีก และทำให้สภาพคล่องไหล่บ่าเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่
ผู้ว่าการฯ กล่าวว่า หน่วยงานกำกับดูแลของจีนอาจจะต้องดำเนินงานเพื่อป้องกันกระแสเงินทุนไหลเข้าประเทศอย่างผิดปกติด้วยการคุมเข้มอัตราแลกเปลี่ยนมากยิ่งขึ้น รวมทั้งดูแลสภาพคล่องโดยรวมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม นอกจากนี้ รัฐบาลจีนจะต้องดูแลเศรษฐกิจให้สมดุลในระดับมหภาคและป้องกันกระแสเงินร้อนไหลเข้าประเทศ แต่กระแสเงินไหลเข้าประเทศนั้น คงจะไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด สำนักข่าวซินหัวรายงาน