คชอ. เร่งฟื้นฟูความเสียหายจากอุทกภัย ประเดิมที่แรกจ.นครสวรรค์

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 11, 2010 16:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการแถลงข่าว “แผนปฏิบัติการฟื้นฟูสภาพความเสียหายจากอุทกภัย ของคณะกรรมการอำนวยการกำกับ ติดตามช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (คชอ.) ภายใต้ชื่อโครงการ “ฟื้นไทยด้วยใจ ไทยทั้งชาติ" โดยจะเริ่มที่จังหวัดนครสวรรค์เป็นแห่งแรกในวันพรุ่งนี้

ยอดรวมของจังหวัดที่ได้รับความเสียหายมีมากกว่า 51 จังหวัด และการประเมินความเสียหายในเบื้องต้นอยู่ที่ประมาณ 6 หมื่นล้านบาท แต่ขณะนี้ตัวเลขความเสียหายที่เกิดขึ้นเมื่อรวมกับที่ภาคใต้ประมาณ 1 แสนล้านบาท และคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณในการฟื้นฟู 5 หมื่นล้านบาท ดังนั้น ภารกิจของ คชอ. นอกเหนือจากการช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นแล้ว คือการฟื้นฟูที่ทุกภาคส่วนกำลังจะเข้าไปบูรณะ พร้อมเตรียมแผนรับมือกับภัยพิบัตและการป้องกันภัยพิบัติในระยะยาวด้วย

สำหรับแผนการฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดนครสวรรค์ที่ เป็นความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาคประชาชน เครือข่ายประชาสังคม ภาคราชการ สื่อมวลชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฯลฯ ซึ่งถือเป็นการร่วมพลังครั้งใหญ่ของคนไทย โดยกิจกรรมในวันพรุ่งนี้ จะเริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น. โดยกองคาราวานจะเคลื่อนขบวนออกจากหน้า บมจ. อสมท. มุ่งตรงไปที่ จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ในการฟื้นฟูเยียวยาประชาชน ตามแต่ละความถนัดของหน่วยงาน อาทิ การซ่อมรถจักรยนต์ฟรีมีอะไหล่ให้พร้อม โดยนักศึกษาที่ไปช่วยทำหน้าที่ซ่อมแซมเครื่องไฟฟ้า เครื่องยนต์ต่าง ๆ จะได้รับเบี้ยเลี้ยงทุกคน

นอกจากนี้จะมีการซ่อมแซมถนนหนทาง ที่อยู่อาศัยบ้านเรือนประชาชน ส่วนหน่วยงานด้านสาธารณสุข จะจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ไปให้บริการตรวจรักษา ฯลฯ โดยแผนการฟื้นฟูนี้ จะมีการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ จังหวัดที่ประสบอุทกภัย

ในส่วนของการจ่ายเงินจำนวน 5,000 คนให้กับครัวเรือนซึ่งมีประมาณ 632,000 กว่าราย (ไม่รวมภาคใต้) ที่ประสบอุทกภัยแต่ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือนั้น จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด และหากพื้นที่บริเวณใดที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ ทาง คชอ.จะประสานกับธนาคารออมสินให้นำเงินไปจ่ายให้กับประชาชนถึงพื้นที่ โดยตั้งเป้าว่าภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ จะสามารถจ่ายเงินให้กับประชาชนได้อย่างน้อยจำนวน 6 แสนราย

จังหวัดที่มียอดของความเดือนร้อนมากที่สุดคือจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพราะยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ แต่คาดว่าภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้น้ำจะเริ่มลดลงและ กลับสู่สภาวะปกติ โดยก่อนวันที่ 5 ธันวาคม ถนนสายต่าง ๆ จะสามารถใช้งานได้เหมือนเดิม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ